Thursday, March 13, 2014

มะหมากับเด็กๆ




         ไม่ใช่ สุนัข ทุกตัวจะเหมาะสมกับเด็ก และไม่ใช่เด็กทุกคนจะเหมาะสมกับ สุนัข ถ้า เด็กๆ มีอายุต่ำกว่า 6 ปี คุณควรใช้เวลาพิจารณาสุนัขให้มากก่อนที่จะซื้อ สุนัข ตัวใหม่ สุนัขตัวใหญ่ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดุหรือใช้สำหรับต่อสู้ควรหลีกเลียงเอาไว้ เพราะ สุนัข เหล่านั้นอาจทำร้ายเด็กๆ ได้ เช่นเดียวกับไม่ควรเลือก สุนัข ที่เห่ามากเกินไปเช่นกัน

          สำหรับเด็กที่อายุ 7 ปีขึ้นไป เด็กบางคนเริ่มที่จะพัฒนาความผูกพันกับ สุนัข เขาจะมีความสุขมากเมื่อได้อุ้ม สุนัข ของเขาครั้งแรก สุนัข สามารถสอนให้เขารู้จักภาระหน้าที่ มีความอดทนมากขึ้น มีอารมณ์ร่วมและมีความสงสาร แต่ไม่ใช่ว่าเด็กๆ จะมีความสามารถดูแลสุนัขของเขาได้อย่างสมบูรณ์ พ่อ-แม่ควรช่วยเขาดูแลด้วย

         
การนำ สุนัข เข้ามาในครอบครัวที่มีเด็กๆ อยู่

          เมื่อคุณนำสุนัขเข้ามาในครอบครัวของคุณแล้ว คุณควรแน่ใจว่ามันมีเวลาพอที่จะปรับตัวก่อนที่จะถูกเด็กๆ นำไปเล่น ควรมีกฏสำหรับเด็กๆ ซึ่งเป็นกฏที่แสดงถึงความห่วงใย ความกังวลในสุนัขตัวใหม่ และคุณควรตัดสินใจเรื่องที่กินและที่นอนของ สุนัข ควรมีเตียงสำหรับสุนัขเอง ไม่ควรให้นอนกับเด็กๆ สิ่งสำคัญคือ คุณควรสอน วิธีการดูแลสุนัข ให้กับเด็กๆด้วย รวมทั้งคุณก็ต้องฝึกสุนัขเช่นกัน ควรให้เวลากับพวกเขาก่อนที่จะเกิดอุปนิสัยที่ไม่พึงประสงค์ในอนาคต

         
การนำเด็กเข้ามาในครอบครัวที่มีสุนัขอยู่

          ส่วนมากมักเกิดความกังวลกันว่า สุนัข จะปฏิบัติตัวเช่นไรเมื่อมีเด็กๆ เข้ามาอยู่ในบ้าน พ่อ-แม่ส่วนมากมักห่วงความปลอดภัยของเด็กๆ ส่วนมากสุนัขจะเชื่องกับเด็กที่เข้ามาใหม่และไม่ค่อยจะสนใจเด็กเท่าใดนัก แต่จะไม่เป็นเช่นนี้หากพ่อ-แม่ต่างก็ให้เวลากับเด็กๆ เป็นพิเศษ

          ปัญหามักเริ่มเกิดตอนที่เด็กเริ่มหัดเดิน ซึ่งในขณะนั้นเด็กๆ ก็ยังคงไม่เข้าใจกฏของบ้านและไม่รู้จักปล่อยให้สุนัขอยู่ตามลำพัง สุนัขจะมีความสุขมากหากมีที่เป็นของมันเอง จงจำไว้ว่าเมื่อคุณนำเด็กเข้ามาอยู่ในบ้าน ทุกคนควรเอาใจใส่สุนัขมากๆ แล้วมันจะมีนิสัยที่ดีและเชื่องกับเด็ก

         
ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับ สุนัข

          สำหรับสุนัขแล้วทุกคนในครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของเขา แต่เมื่อมีเด็กเล็กๆเข้ามาอยู่ด้วย เขาจะรู้สึกว่าเด็กไม่ใช่เจ้านายของเขา ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาได้ เพราะเขารู้สึกว่าเด็กไม่ใช่เจ้านาย เขาจึงมักปฏิเสธคำสั่งของเด็กๆและอาจกัดเด็กๆได้ เป็นความจำเป็นที่พ่อ-แม่ควรเข้าใจสุนัขและมีการตักเตือนเพื่อป้องกันปัญหา ที่กล่าวมาแล้ว หรือคุณอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็ได้ เช่น สัตวแพทย์ เป็นต้น

 
         
ทำไม? สุนัข จึงกัดเด็กและจะป้องกันได้อย่างไร

          เมื่อสุนัขกัดผู้ใหญ่มันมักจะโดนทำโทษ แต่เมื่อกัดเด็กความกลัวที่จะโดนทำโทษก็จะลดลง แต่สุนัขก็จะมีการเตือนก่อนกัดเสมอ โดยแสดงออกทางสีหน้า ขา เพื่อทำให้เด็กๆเกิดอาการกลัว

          เป็นโชคไม่ดีที่เด็กๆ ไม่สามารถสื่อเป็นภาษาของสุนัขได้และสุนัขก็ไม่สามารถสื่อสารได้เช่นกัน ส่วนมากการที่สุนัขกัดเด็กๆ นั้นเกิดจากการผิดพลาดในการเอาใจใส่ของพ่อ-แม่ และผิดพลาดเกี่ยวกับการป้องกันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาอย่างดีเยี่ยมโดยการดุสุนัข

          หากว่าเด็กๆ โดนกัดและมีแผลเกิดขึ้น คุณควรทำความสะอาดแผลและใส่ยาให้เขา หากคุณสงสัยว่าสุนัขนั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ คุณควรติดต่อกับสถานพยาบาลใกล้บ้านคุณทันที ความกระทบเทือนทางจิตใจมีความรุนแรงกว่าทางร่างกาย หากเด็กเกิดอาการกลัวสุนัข คุณควรนำเขาออกมาให้ห่างจากสุนัขก่อน แล้วจึงค่อยๆให้เขาเข้าไปหาสุนัขอีกครั้งเมื่อเขาพร้อม แต่เราก็ไม่สามารถประมาณเวลาได้แน่นอนว่าเด็กๆจะหายกลัวเมื่อใด คุณควรหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วย ถ้าเด็กๆของคุณไม่สามารถเขาหาสุนัขได้อีก

         
เกี่ยวกับสุขภาพของผู้เลี้ยง สุนัข

          สุนัขและคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แต่ก็มีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อการติดเชื้อ แต่ก็มีเพียงไม่กี่โรคเท่านั้น เช่น โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งคุณควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ให้กับสุนัขของคุณ เพราะหากคุณไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขของคุณ หากสุนัขของคุณไปกัดลูกของคุณนั่นหมายถึงคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายเพื่อ รักษาเขา เด็กๆของคุณอาจติดพยาธิตัวกลม และพยาธิปากขอได้จากอุจจาระของสุนัข ดังนั้นควรถ่ายพยาธิให้กับสุนัขด้วย เห็บและหมัดก็อาจกัดเด็กๆได้เช่นกัน คุณจึงควรกำจัดเห็บ-หมัดให้กับสุนัขด้วยเช่นกัน ไม่ควรให้เด็กนอนกับสุนัขเพราะอาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

 
วิธีแก้ปัญหาง่ายๆสำหรับปัญหาเด็กกับสุนัข

         
การเห่าทำให้เด็กตื่นจากการนอนหลับ

          วิธีแก้ปัญหา : ย้ายสุนัขให้ไกลออกไปจากสถานที่ที่มีเด็กนอนหลับอยู่ ปล่อยให้เด็กๆชินกับเสียงเห่าของสุนัข ต่อไปเขาก็จะสามารถหลับได้เอง

         
สุนัขวิ่งเข้าไปหาเด็กทำให้เขาล้มลง

          วิธีแก้ปัญหา : ให้สุนัขอยู่ห่างๆ เด็กที่เพิ่งหัดเดิน สอนให้เด็กรู้จักวิธีการบอกให้สุนัขนั่งลงเวลาที่สุนัขมีอาการ ตื่นเต้นมาก

         
สุนัข ขโมยอาหารของเด็กหรือขออาหารที่โต๊ะ

          วิธีแก้ปัญหา : ให้นำสุนัขออกจากครัวในขณะที่เด็กกำลังรับประทานอาหาร มีอาหารของสุนัขเองไม่ควรนำอาหารบนโต๊ะให้

         
สุนัข กระโจนใส่เด็กๆ

          วิธีแก้ปัญหา : ไม่ควรอนุญาตให้ทำเช่นนั้นกับใครๆทั้งสิ้น สอนให้เด็กรู้จักหลบและหันหลังให้สุนัขขณะที่สุนัขกระโดด หรืออาจสอนสุนัขตั้งแต่เด็กๆ

         
สุนัข คำรามหรือขู่เด็ก

          วิธีแก้ปัญหา : ไม่ควรอดทนต่อการรุกรานของสุนัข และควรเข้มงวดกับการฝึกสุนัขให้มากขึ้น ให้คำแนะนำกับเด็กๆไม่ควรเคลื่อนย้ายชามอาหาร ของเล่นของสุนัข เพราะสุนัข ควรมีที่ประจำของเขาเอง รวมถึงที่นอนด้วย

         
เด็กเล่นกับอุจจาระของสุนัข

          วิธีแก้ปัญหา : ให้สุนัขอยู่ข้างนอกและทำความสะอาดก่อนที่เด็กจะมาเล่น มีที่ให้สุนัขถ่ายอุจจาระซึ่งไม่ใช่ที่ที่อยู่ใกล้กับสถานที่เล่นของเด็กๆ


แหล่งที่มา  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, http://pet.kapook.com
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment