งานวิจัยชิ้นล่าสุดของภาควิชาธุรกิจของมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย
คอมมอนเวลธ์ ตีพิมพ์ลงในวารสารนานาชาติเพื่อการบริหารจัดการสุขภาพในที่ทำงานของสหรัฐอเมริกา
ศึกษาผลของการเลี้ยงสุนัขในที่ทำงานเป็นครั้งแรก
ซึ่งผลการวิจัยระบุว่า การเลี้ยงสุนัขในที่ทำงานนอกจากจะทำให้ระดับความเครียดของผู้เลี้ยงลดลงแล้ว
ยังสามารถสร้างความพึงพอใจต่อการทำงานให้กับเพื่อนร่วมงานด้วยเช่นเดียวกัน
ผู้วิจัยสำรวจความเครียดของพนักงานอาสาสมัครจำนวน 76 คน ในบริษัท รีเพลซเมนท์ จำกัด ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่และอนุญาตให้พนักงานจำนวน
550 คน สามารถนำสุนัขมาเลี้ยงที่ทำงานได้มานานกว่า 15
ปีแล้ว
โดยผู้วิจัยแบ่งพนักงานออกเป็น 3 กลุ่ม
- กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มที่เลี้ยงสุนัขและนำสุนัขมาเลี้ยงที่ทำงาน
- กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่เลี้ยงสุนัขแต่ไม่ได้นำสุนัขมาเลี้ยงที่ทำงาน
- และกลุ่มที่ 3 กลุ่มพนักงานที่ไม่เลี้ยงสุนัข
และตรวจวัดระดับฮอร์โมนความเครียดจากตัวอย่างน้ำลาย พบว่ากลุ่มที่เลี้ยงสุนัขและนำสุนัขมาที่ทำงาน
มีระดับฮอร์โมนความเครียดที่ต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ได้นำสุนัขมาเลี้ยงรวมถึงกลุ่มที่ไม่ได้เลี้ยงสุนัข
นอกจากจะสามารถลดระดับความเครียดได้แล้ว
ยังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานให้มากขึ้นได้
โดยมีสุนัขเป็นสื่อกลางอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับการนำสุนัขมาเลี้ยงที่ทำงาน เช่น เรื่องสุนัขกัดกัน, พนักงานแพ้ขนสัตว์ รวมถึงสุนัขที่จะนำมาเลี้ยงควรมีนิสัยดีและไม่ส่งเสียงดัง
ทั้งนี้ ผู้วิจัยนั้นได้รับทุนสนับสนุนจากศูนย์ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างมนุษย์และสัตว์แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย
คอมมอนเวลธ์ เพื่อที่จะเพิ่มสถานที่ทำงาน และเพิ่มระยะเวลาในการศึกษาในเรื่องดังกล่าวให้มากขึ้น
นอกจากนี้ทีมวิจัยยังต้องการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของความเครียดที่อาจมีมากขึ้นจากการมีสุนัขอยู่ในสถานที่ทำงานตลอดวัน
แหล่งที่มา http://www.108health.com
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment