Monday, December 2, 2013

มาพิสูจน์กัน สุนัขตาบอดสี จริงหรือ?




        โดยปกติมักจะใช้คำว่า ตาบอดสี กับกลุ่มคนที่มองภาพสีผิดเพี้ยนจากคนที่มีสายตาปกติ ดังนั้นเมื่อพบอาการเดียวกันนี้ในสุนัข ก็เลยทำให้เข้าใจว่า สุนัขเป็นโรคตาบอดสีด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วถึงแม้การมองเห็นของสุนัขจะคล้ายคลึงกับคนตาบอดสี แต่สุนัขก็ไม่ได้เป็นโรคตาบอดสีอย่างที่เข้าใจกัน เพียงแค่สุนัขมีข้อจำกัดในการมองเห็นมากกว่าคนเท่านั้นเอง

ความแตกต่างระหว่างการมองเห็นของคนและสุนัข

           โรคตาบอดสีในคนเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ชนิดหนึ่งในม่านตา แต่ของสุนัขเกิดจากปริมาณเซลล์รูปกรวยในจอรับภาพหรือเรตินา (เซลล์ที่แยกความแตกต่างของสี) มีจำนวนน้อยกว่าของคน ดังนั้นจึงทำให้สุนัขมีความสามารถในการแยกสีได้ไม่มากนัก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้สุนัขมีการมองเห็นเช่นนี้ เพราะแต่เดิมสุนัขจะออกหากินในเวลากลางคืน จึงส่งผลให้สุนัขไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการเห็นสีที่หลากหลายเหมือน กับคน ที่ใช้ชีวิตกลางวันเป็นส่วนใหญ่

การมองเห็นภาพสีของสุนัข

          จากสาเหตุข้างต้นส่งผลให้สุนัขสามารถมองเห็นสีเหลืองกับสีน้ำเงินได้ ในขณะที่ไม่สามารถมองเห็นสีแดง เขียว หรือสีที่อยู่ใน 2 เฉดสีนี้ได้ อย่างเช่น สีชมพู ส้ม ม่วง ฯลฯ แต่ทั้งนี้สุนัขสามารถแยกเฉดสีที่เกิดจากสีเหลืองกับสีน้ำเงินได้มากกว่าการ มองเห็นของคนด้วย ดังจะเห็นได้จากการเปรียบเทียบ 2 แถบสีต่อไปนี้คนสายตาปกติจะมองเห็นครบทั้ง 6 สี คือ แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า และม่วง ส่วนสุนัขจะมองเห็นเพียงแค่ 2 สีเท่านั้น คือ เหลือง กับน้ำเงินในระดับความเข้มข้นที่แตกต่างกัน

  ภาพแถบสีที่คนสายตาปกติมองเห็น

 ภาพแถบสีที่สุนัขมองเห็น

         ทั้งนี้ หากคุณต้องการเข้าใจการมองเห็นของสุนัขให้มากยิ่งขึ้น อาจจะทดลองมองผ่านแอพพลิชั่นแต่งภาพจากโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่น ๆ โดยปรับโหมดภาพไปในโหมดที่มีการลดระดับเฉดสีแดงหรือเขียวลง แล้วคุณก็จะได้เห็นภาพในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับการมองเห็นของสุนัข

 ภาพปกติ



 ภาพที่ผ่านการปรับสีด้วยแอพพลิเคลั่น

        จากภาพดังกล่าวเห็นได้ว่า เฉดสีแดงจะถูกตัดออกไป อย่างเช่น ผ้าขนหนูสีม่วงที่เกิดจาการผสมของสีแดงกับน้ำเงิน ก็จะเห็นเป็นสีน้ำเงิน ส่วนตุ๊กตารูปหนูก็กลายเป็นสีขาวซีด และปลอกคอสีแดงที่แสดงออกมาเป็นสีเข้มตรงข้ามกับของจริงโดยสิ้นเชิง

          ฉะนั้นจึงเห็นว่า ทั้งสิ่งของและอาหารที่ผลิตขึ้นมาสำหรับสุนัข ส่วนมากจะถูกดีไซน์ให้เหมาะสมกับการมองเห็นของสุนัขมากที่สุด ส่วนเจ้าของก็สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ได้เช่นกัน โดยการปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน เพื่อให้สุนัขใช้ชีวิตได้สะดวกและสนุกสนานยิ่งขึ้น อย่างเช่น เปลี่ยนของใช้ ของเล่น จากสีแดงมาเป็นสีที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับเฉดสีข้างต้น เพราะง่ายต่อการมองเห็นและค้นหามากกว่า

          แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การมองเห็นของสุนัขจะมีข้อจำกัด ไม่สามารถแยกสีสันและมองเห็นความสวยงามของสิ่งรอบ ๆ ตัวได้เท่ากับคน แต่ทว่าสุนัขก็มีความสามารถอื่น ๆ มาชดเชยข้อด้อยของตัวเอง อย่างเช่น ความสามารถในการได้ยินเสียงอัลตร้าซาวด์หรือคลื่นความถี่สูง ความสามารถในการจำแนกกลิ่นที่หลากหลาย อีกทั้งยังสามารถมองเห็นภาพในความมืดชัดเจนกว่าคนทั่วไปด้วย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Dogster, จากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment