การเลี้ยงสุนัขดีเป็นมิตรที่ดีกับครอบครัว
ต่างจากสุนัขที่เอาไว้โชว์ ซึ่งจะยุ่งยากขึ้นเล็กน้อย บ่อยครั้งที่ลูกสุนัขเตะตาคุณอย่างจัง
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องเรียกว่าเป็นรักแรกที่อาจเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ที่กล่าวว่ามันเป็นสุนัขที่เกิดมาสำหรับคุณ
ถ้าเราเชื่อสายตาและมือของเรา ก็จะบอกได้ว่าสุนัขตัวนี้รู้สึกอย่างที่เรารู้สึกหรือไม่ เมื่อคุณเลือกซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยง จงอย่างรีบร้อนในการเลือกหา ยิ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับลูกสุนัขนานแค่ไหน
คุณก็ยิ่งเข้าใจลูกสุนัขมากแค่นั้น
หลักพิจารณาในการเลือกซื้อสุนัข คือ
1. มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง มีอายุสมขนาดของตัวที่ควรจะเป็น
ไม่ใช่ตัวเล็กหรือใหญ่เกินไป ดูสมส่วน ร่าเริง ชอบเล่น ไม่อยู่นิ่ง
ไม่หงอยเหงาเศร้าซึม ไม่แสดงกิริยาก้าวร้าวหรือตื่นตกใจเกินเหตุ
ท่าทางการเดินหรือวิ่งเป็นปกติ ขาแข็งแรง เมื่อยกลูกสุนัขขึ้น โดยใช้สองมือประคองที่ขาหนีบหน้าของสุนัขเป็นปกติดีหรือไม่
ไม่มีอาการใด ๆ ที่แสดงว่าเจ็บป่วย
2. เปิดดูภายในช่องหู ควรจะแห้ง
สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น ปราศจากก้อนแข็ง ๆ รอยแผลและ สิ่งสกปรก จมูกเย็นชื้น
(ถ้าแห้งแสดงว่าไม่สบาย) สะอาด ไม่มีน้ำมูก
3. เปิดปากสำรวจลิ้น ฟัน
และเหงือก โดยลิ้นและเหงือกควรมีสีชมพู และเขี้ยวควรอยู่ตำแหน่งที่ เหมาะสม
4. ดวงตาต้องสดใสเป็นประกาย
สว่าง ไม่ขุ่นมัว สะอาด และปราศจากขี้ตาและน้ำตา สุนัขควร ลืมตาได้เป็นปกติ
ไม่มีอาการกระพริบตาบ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงสุนัขที่ใช้อุ้งเท้าแคะตาบ่อย ๆ
5. ขนเป็นมันเงา นุ่ม
ใช้ฝ่ามือลูกขนสุนัขให้ทั่ว เพื่อสำรวจผิวหนัง รอยแผลเป็น ฝุ่นดำ ๆ ซึ่งเป็น ไข่ของเห็บหรือหมัด
ให้ดูด้วยว่าขณะลูกสุนัขแสดงอากาศเจ็บปวดหรือไม่
6. ดูใต้หางของสุนัขว่าทวารหนักปราศจากรอยเปื้อนของอุจจาระ
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสุนัขกำลัง ท้องเสีย
7. สุนัขไม่ไอหรือแสดงอาการอื่น
ๆ ที่ผิดปกติ เช่น ท้องไม่โต หรือป่องเกินไป เพราะอาจมีพยาธิ
8. ส่วนเรื่องของสี ในการดูลูกสุนัขนั้นไม่ใช่ว่าจะเข้มหรืออ่อนเพียงอย่างเดียว
ควรดูตำแหน่งของ สีหรือจุดแต้มสีด้วยว่าออกโทนเดียวหรือเปล่า สีเป็นส่วนหนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม
สุนัขบางตัวรูปร่าง ทุกอย่างสวยหมด
แต่ตำแหน่งของสีผิดเพี้ยนไปก็จะกลายเป็นข้อบกพร่องไป
แหล่งที่มา งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม พิษณุโลก
No comments:
Post a Comment