Monday, April 7, 2014

น้ำตา น้องหมา สำคัญไฉน




         น้ำตาในคนนั้นสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างโดยเฉพาะอารมณ์และความรู้สึก เช่นโกรธ เสียใจ หรือแม้กระทั่งดีใจตื้นตันใจ แต่ในสุนัขนั้นน้ำตาสามารถบ่งบอกโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตาสุนัขได้ ตั้งแต่ สี เช่น สีน้ำตาล สีเขียว สีขาวขุ่น หรือสีใส สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงลักษณะการติดเชื้อโรคหรือเป็นสิ่งที่จะประกอบการช่วยวินิจฉัยโรคตาได้ นอกจากนั้นปริมาณน้ำตาของสุนัขยังเป็นข้อมูลในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ได้

           สำหรับเครื่องมือในการวัดปริมาณน้ำตาที่ปัจจุบันถือเป็นมาตรฐานยอมรับกันทั่วไป คือ Schirmer tear test (STT) เป็นกระดาษแผ่นบางชิ้นเล็กสอดเข้าไปบริเวณเปลือกตาล่างทิ้งไว้ 1 นาทีแล้วดูว่าน้ำตาซึมเข้ามาที่กระดาษกี่มิลลิเมตร

          
STT > 15 มิลลิเมตร เท่ากับปกติ STT 10-15 มิลลิเมตร เท่ากับว่ามีแนวโน้มเป็นโรคตาแห้ง

          
 STT < 10 มิลลิเมตร เท่ากับเป็นโรคตาแห้ง 


           สำหรับกรณีมากกว่า 20-25 มิลลิเมตรจะถือว่ามากไปจนทำให้เกิดโรค

           แต่ก็ขึ้นอยู่กับอาการของสุนัขด้วย เช่น ถ้าสุนัขมีน้ำตาไหลมากร่วมกับหรี่ตา หรือตาแดงมากนั่นอาจเป็นปัญหากระจกตาเป็นแผล กระจกตาอักเสบได้ แต่ถ้าสุนัขมีน้ำตาไหลมากด้วยไม่มีปัญหาตาแดงไม่มีอาการหรี่ตาน้ำตาที่ไหล ออกมาเป็นน้ำตาใส ๆ ร่วมกับมีคราบติดบริเวณร่องจมูกเราสามารถแบ่งปัญหานี้ออกเป็น 2 สาเหตุ

           1. มีการผลิตน้ำตามากเกินไป เช่นมีการระคายเคืองเนื่องจากขนตาขึ้นผิดที่ก็เป็นไปได้

           2. มีการผลิตน้ำตาเท่าเดิมแต่การระบายออกไม่ดีเช่นมีการอุดตันของท่อน้ำตา ท่อน้ำตาตีบ ท่อน้ำตาอักเสบ หรือเป็นโรคมาแต่กำเนิด

           กรณีที่มีปัญหาน้ำตาน้อยเกินกว่าปกติวัด STT ได้ 10 มิลลิเมตร ต่อ 1 นาที วินิจฉัยว่าเป็นโรคตาแห้งซึ่งอาการส่วนใหญ่สุนัขจะมีขี้ตาเยอะมาก ขี้ตาแห้งกรัง เช็ดขี้ตาให้สุนัขแล้วสักพักก็เป็นอีก หรือสุนัขมีปัญหาตาแดงมานานมาก กระจกตาขาวขุ่น มีเม็ดสีดำ น้ำตาลขึ้นที่กระจกตา อาการที่กล่าวมาข้างต้นเป็นอาการของสุนัขที่เป็นโรคตาแห้ง สาเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ ระบบภูมิคุ้มกัน (immune mediated) สายพันธุ์ (breed predisposing) พันธุกรรม (genetic) การติดเชื้อ (infection) อายุ (aging) 

  
แหล่งที่มา  โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ, http://pet.kapook.com/view5654.html
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/explore/golden-dachshund/

No comments:

Post a Comment