สายพันธุ์สุนัขในโลกนี้มีมากมายทั้งสุนัขพันธุ์พื้นเมือง สุนัขนำเข้าจากต่างประเทศ และสุนัขที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ซึ่งหากตอนนี้คุณกำลังมองหาสุนัขสักตัวมาเลี้ยง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกสุนัขสายพันธุ์ใด หรืออยากรู้ว่า เพื่อนซี้แสนซื่อที่อยู่ข้างกายของคุณในตอนนี้จะเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ฮิตใน หมู่คนเลี้ยงสุนัขกันบ้างหรือเปล่า ก็ไปติดตาม 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทยกันเลยดีกว่า
1. ชิวาวา (Chihuahua)
สุนัขตาโปนที่ถูกเรียกชื่อตามรัฐชิวาวา ซึ่งเป็นชื่อของรัฐแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเม็กซิโก นอกจากจะเป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่สุดในโลกแล้ว ด้วยลำตัวขนาดเล็กกะทัดรัด สะดวกแก่การพกพา บวกกับนิสัยขี้เล่น ขี้อ้อน จึงส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมนำชิวาวามาเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น ดังที่เห็นได้จากการที่ชิวาวามักจะปรากฏตัวพร้อมกับเหล่าเซเลบริตี้คนดัง อยู่บ่อย ๆ นั่นเอง
2. ปอมเมอเรเนียน (Pomerania)
ปอมเมอเรเนียนมีขนาดตัวเล็ก ตาแป๋ว ตัวกลม ขนฟู น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.7-2.5 กิโลกรัม ถ้าน้ำหนักน้อยหรือมากกว่านี้ จะถือว่าไม่ได้มาตรฐานสายพันธุ์ ปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่ตื่นตัวเสมอ มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น อวดดี สง่างาม และขณะก้าวย่างแสดงถึงความมีชีวิตชีวา ถือว่าเป็นพันธุ์ที่สมบูรณ์ทั้งรูปร่างและการเคลื่อนไหว ข้อเสียคือ อาจจะเห่าพร่ำเพรื่อไปสักนิด ทำให้เจ้าของที่ไม่ชินกับธรรมชาติของมัน อาจรู้สึกเครียดได้
3. ชิสุ (Shih Tzu)
ชิสุ เป็นสุนัขขนาดเล็กในกลุ่มทอย (Toy Group) มีน้ำหนักประมาณ 4.5-7.5 กิโลกรัม ส่วนสูงประมาณ 25-27 เซนติเมตร ลักษณะของศีรษะต้องกลมโต สีกลางหน้าผากขาวเด่น ปากสั้น ความยาวของลำตัวมากกว่าความสูงเล็กน้อย กล้ามเนื้อบึกบึน กระชับ และเดินหน้าเชิด การย่างก้าวสง่าผ่าเผยทั้งนี้ ชิสุ เป็นสุนัขที่มีนิสัย กล้าหาญ ตื่นตัว ขี้ประจบ มีความสง่าอยู่ในตัว อีกทั้งยังเป็นสุนัขที่รักความสะอาด เป็นมิตรกับทุกคน ปรับตัวได้ดี ชอบที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ กับเจ้าของ หากมีเวลาเจ้าของควรพามันไปวิ่งเล่นหรือออกกำลังกายบ้าง
4. ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier)
สุนัขยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มทอย ด็อก (Toy Dog) น้ำหนักเฉลี่ยของพวกเขาจะอยู่ที่ 1-5.4 กิโลกรัม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของที่ชอบแต่งตัวให้กับสุนัข เพราะตลอดทั้งลำตัวของมันจะถูกปกคลุมด้วยขนยาว ที่มีลักษณะเรียบลื่น สลวยสวยงาม ทั้งนี้ สีขนของยอร์คกี้จะมีสีน้ำตาลและดำในช่วงแรกเกิด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเงินออกน้ำเงินและสีทองเมื่อเริ่มโตขึ้น
ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่เหมาะสมกับคนทุกช่วงอายุ และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีสำหรับคนโสดหรือผู้ไม่มีบุตร หากบ้านใดมีเด็กเล็กอยู่ในครอบครัว ควรสอนเด็กให้รู้จักวิธีปฏิบัติตัวและวิธีเล่นกับยอร์คเชียร์ เพราะหากเด็กเล่นกับมันแรง ๆ ก็อาจทำให้มันบาดเจ็บได้ง่ายหรือบางทีอาจอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย ตัวเล็กและบอบบาง และการที่พวกมันถูกเด็กแกล้งเป็นประจำ ก็อาจทำให้พวกมันมีนิสัยเปลี่ยนเป็นก้าวร้าว โมโหง่าย หรืออาจถึงขั้นกัดคน แต่หากพ่อแม่รู้จักสอนลูก ๆ ให้ปฏิบัติตัวต่อยอร์คเชียร์อย่างดีแล้วล่ะก็ พวกมันจะเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวที่ดีได้เช่นกัน
5. บีเกิล (Beagle)
จัดอยู่ในสุนัขกลุ่มฮาวน์ (Hound) หรือสุนัขล่าเนื้อ ส่วนสูงอยู่ที่ 33-38 นิ้ว และมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 8-13 กิโลกรัม ลักษณะรูปร่างของบีเกิลมีขนาดลำตัวยาวกว่าความสูงเล็กน้อย หูปรก สีขนมีทั้งสีขาว ดำ และแทน โดยสีที่ผสมกันทุกสีจะเป็นที่ยอมรับมากที่สุด
อุปนิสัยส่วนตัวของเจ้าบีเกิลก็น่ารักทีเดียว นอกจากจะสุภาพ กระฉับกระเฉง ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แล้ว ยังสามารถเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม แถมมีพลังเล่นล้นเหลือไว้เป็นเพื่อนเล่นให้เจ้าของได้คลายเหงาอีกด้วย แต่บีเกิลมีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ค่อนข้างเชื่อคนง่าย ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับตำแหน่งสุนัขเฝ้าบ้านเท่าไหร่นัก
6. ปั๊ก (Pug)
จัดอยู่ในสุนัขกลุ่มฮาวน์ (Hound) หรือสุนัขล่าเนื้อ ส่วนสูงอยู่ที่ 33-38 นิ้ว และมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 8-13 กิโลกรัม ลักษณะรูปร่างของบีเกิลมีขนาดลำตัวยาวกว่าความสูงเล็กน้อย หูปรก สีขนมีทั้งสีขาว ดำ และแทน โดยสีที่ผสมกันทุกสีจะเป็นที่ยอมรับมากที่สุด
อุปนิสัยส่วนตัวของเจ้าบีเกิลก็น่ารักทีเดียว นอกจากจะสุภาพ กระฉับกระเฉง ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แล้ว ยังสามารถเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม แถมมีพลังเล่นล้นเหลือไว้เป็นเพื่อนเล่นให้เจ้าของได้คลายเหงาอีกด้วย แต่บีเกิลมีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ค่อนข้างเชื่อคนง่าย ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับตำแหน่งสุนัขเฝ้าบ้านเท่าไหร่นัก
6. ปั๊ก (Pug)
ปั๊ก เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก มีขนาดร่างกายเล็กปานกลางเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวตันมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ส่วนใบหน้านั้นสั้นและย่น ตาโปนแลดูใจดี ใบหูพับตกลงด้านข้าง บนลำตัวปกคลุมด้วยขนสั้นเกรียนแต่นุ่มคล้ายกำมะหยี่ หางมีลักษณะบิดเป็นเกลียวชี้ขึ้นหรือม้วนจนเป็นวงติดกับบั้นเอว ถ้าหากหางม้วนได้ถึงสองตลบจัดว่าเป็นลักษณะที่สวยสมบูรณ์ที่สุด แต่พวกมันจะหายใจและกรนเสียงดัง
สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีนิสัยน่ารัก ถึงหน้าตาของมันจะยับย่นเหมือนกำลังคิดมากไปสักหน่อย แต่ถ้าได้ลองเลี้ยงแล้วจะหลงใหลความอ่อนโยนของมันโดยไม่รู้ตัว ข้อควรระวังในการเลี้ยง คือ ปั๊ก ทนสภาพอากาศที่ร้อนมากไม่ค่อยได้ อาจถึงขั้นเป็นลมแดดเลยทีเดียว แต่ถ้าอยู่ในอากาศเย็น ก็ควรให้อยู่ในที่อุ่น ๆ หรือหาเสื้อมาสวมใส่เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด
7. บูลด็อก (Bulldog)
สุนัขสายพันธุ์บูลด็อก นอกจากจะมีรูปร่างบึกบึน ตัวหนา กล้ามเนื้อแข็งแรง พวกมันยังมีช่วงไหล่กว้างกว่าสะโพก ศีรษะใหญ่กว้าง หน้าสั้น บริเวณหน้าผากมีรอยย่นลึก และหางสั้นขดแน่นกับส่วนหลัง ส่วนอุปนิสัยและพฤติกรรมจัดว่าเป็นสุนัขที่มีความอดทนสูง และมีภาวะทางอารมณ์มั่นคงเสมอต้นเสมอปลายมากทีเดียว นอกจากนี้ภายใต้ใบหน้าอันเคร่งขรึมยังเต็มไปด้วยความตั้งใจแน่วแน่ กล้าหาญ และเด็ดเดี่ยวมากเลยทีเดียว
8. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีอายุประมาณ 12-16 ปี ลำตัวปกคลุมด้วยขนหนากว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น สีขนส่วนใหญ่บริเวณเท้า ขา ท้อง รอบดวงตาจะเป็นสีขาว ดวงตามีสีฟ้า น้ำตาลเข้ม เขียว และน้ำตาลอ่อน บางตัวอาจมี 2 สีรวมกัน ความสูงเฉลี่ยอยู่ 50-60 เซนติเมตร น้ำหนักราว 15-28 กิโลกรัม
สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ มีอุปนิสัยเป็นมิตร ขี้เล่น และเข้ากับคนได้ง่ายจึงทำให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกคนในครอบครัวได้เป็น อย่างดี โดยส่วนใหญ่แล้วไซบีเรียนเพศผู้มักต้องการความสนใจ และชอบอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของมากกว่าเพศเมียแต่ถึงแม้จะเป็นสุนัขใจดี ก็ไม่ควรปล่อยให้เล่นกับเด็กตามลำพัง เนื่องจากทั้งสุนัขและเด็กมักไม่รู้จักออมแรงในการเล่น จนอาจพลาดพลั้ง ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
9. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
นาทีไม่มีใครที่ไม่รู้จักโกลเด้น รีทรีฟเวอร์อย่างแน่นอน เพราะเรามักจะเห็นสุนัขสายพันธุ์นี้โลดแล่นอยู่ในโฆษณาหรือภาพยนตร์บ่อย ๆ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขในกลุ่มกีฬา (Sporting Group) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้งานในกีฬาล่าสัตว์ขนาดกลาง มีอายุเฉลี่ย 12–14 ปี ส่วนสูงราว ๆ 51-60 เซนติเมตร หนักประมาณ 22-26 กิโลกรัม มีสีหลายระดับสี มักจะเป็นสีออกครีมถึงสีเหลืองทองจนถึงกึ่งเข้มแดงมะฮอกกานี ขนแน่นหยักเป็นลอนเล็กน้อย โครงสร้างลำตัวสั้นกระชับได้สัดส่วน
นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า อุปนิสัยของ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ น่ารักสุด ๆ ไปเลย เพราะนอกจากจะมีเสน่ห์ ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ เสียสละ และรักเจ้าของ พวกมันยังเป็นสุนัขที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบอยู่กับคน แถมยังฝึกฝนง่ายอีกด้วย แต่สิ่งที่ควรระวังอย่างหนึ่ง คือ เจ้าของไม่ควรปล่อยให้สุนัขมีอิสระมากจนเกินไป และควรทำรั้วล้อมรอบบริเวณบ้านให้ดี มิเช่นนั้นอาจต้องตามหากันจนเหนื่อย เนื่องจากโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่ชอบเที่ยวและชอบผจญภัยนั่นเอง
10. ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)
ลาบราดอร์ จะมีขนสองชั้น ชั้นนอกสั้น เหยียดตรง และแน่น ขนชั้นในนุ่มและช่วยปกป้องจากสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายได้ดี สีขนเป็นสีดำ สีเหลือง หรือสีช็อกโกแลต บางครั้งอาจมีจุดขาวบริเวณหน้าอก หางของ ลาบราดอร์ ดูคล้ายหางของตัวนาก โคนหางจะหนาและเรียวลงจนถึงปลายหาง
ลาบราดอร์ เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์และน่าเลี้ยงที่สุดพันธุ์หนึ่ง เนื่องจากฝึกง่าย พวกมันมักตื่นตัว กระฉับกระเฉง ช่างประจบ และสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เป็นมิตรกับคน รวมทั้งสัตว์อื่น ๆ นอกจากจุดเด่นเรื่องความฉลาดแล้ว ลาบราดอร์ยังมีจมูกไวเป็นเลิศ พวกมันจึงถูกฝึกใช้ในงานข้าราชการ ดังภาพที่เราเห็นเป็นสุนัขตำรวจหรือสุนัขกู้ภัย เป็นต้น
สุนัขแต่ละสายพันธุ์ นอกจากความน่ารักน่าเอ็นดูแล้ว ยังมีนิสัยขี้เล่น ร่าเริงพอ
ๆ กัน จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมสุนัขทั้ง 10 สายพันธุ์นี้ จึงได้ใจคนไทยไปเต็ม
ๆ
No comments:
Post a Comment