อย่างที่ทราบกันดีว่า
สุนัขกับเสียงเห่าหอนเป็นของคู่กัน บางตัวเห่าทุกอย่างที่สงสัยและไม่คุ้นเคย
ขณะที่บางตัวก็สงวนท่าที เห่าแต่พองามเท่านั้น (เอ..หรือว่าขี้เกียจกันแน่นะ อิอิ)
แต่ถ้าหากว่าใครได้เจอกับสุนัขพันธุ์บาเซ็นจิ (Basenji) ก็อาจจะเข้าใจผิดคิดไปว่า สุนัขพันธุ์นี้ไร้ซึ่งเสียงเห่า
เพราะมันแทบจะไม่ส่งเสียงเห่าอะไรเลย จนได้รับฉายาว่า "สุนัขที่ไม่เคยเห่า"
แต่แท้จริงแล้ว
สุนัขบาเซ็นจิ สามารถส่งเสียงเพื่อแสดงความรู้สึกได้เช่นเดียวกับสุนัขทั่วไป แต่มันจะส่งเสียงได้ดีเยี่ยมเฉพาะเวลาที่มีความสุขมาก
ๆ สังเกตได้จากเสียงที่เปล่งออกมาจะไพเราะคล้ายเสียงเพลง
หรือเวลาที่มันถูกจับได้ว่าทำอะไรที่ไม่ดี หรืออยู่ในขณะอารมณ์ไม่ดี มันก็จะส่งเสียงหอนเป็นเอกลักษณ์
ที่สำคัญ บาเซ็นจิ จะไม่ใช้วิธีการเห่าเหมือนสุนัขบ้านทั่ว ๆ ไป
แต่จะเพียงแค่คำรามสั้น ๆ ในลำคอเท่านั้น
หากรู้สึกได้ถึงสัญญานอันตรายที่เข้ามาใกล้
สำหรับ ในประเทศไทย
บาเซ็นจิ ยังเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมน้อย เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีราคาแพง
โดยส่วนใหญ่มักจะนำเข้ามาจากต่างประเทศ อีกทั้งยังมีรูปร่าง
ลักษณะคล้ายคลึงกับสุนัขทั่วไปของไทย จึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากนัก
ซึ่งที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ได้แก่ คุณทองแท้
สุนัขทรงเลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คู่ของคุณทองแดงนั่นเอง
ทั้งนี้ คุณทองแดงเอง
ก็สันนิษฐานว่ามีเชื้อสายของบาเซ็นจิผสมอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ทรงค้นในหนังสือเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ ก็ปรากฏว่า คุณทองแดง มีลักษณะบางประการคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์บาเซ็นจิ
จึงทำให้สนพระทัยยิ่งขึ้น และทรงค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับบาเซ็นจิ เพราะเป็นสุนัขที่ไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในเมืองไทย
พระองค์ทรงหาหนังสือเกี่ยวกับบาเซ็นจิหลายเล่ม รวมทั้งข้อมูลจากอินเทอร์เนต เพื่อศึกษาเกี่ยวกับประวัติของบาเซ็นจิ
และทรงค้นคว้าศึกษาเกี่ยวกับลักษณะนิสัยใจคอของ บาเซ็นจิ อย่างถี่ถ้วน จนนับว่าทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสุนัขบาเซ็นจิมากที่สุดในประเทศไทย
ทำความรู้จัก
สุนัขพันธุ์บาเซ็นจิ
ความเป็นมาของสายพันธุ์
จากการศึกษาพบว่าบาเซ็นจิ สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษตั้งแต่ครั้งอียิปต์โบราณ
เพราะจากหลักฐานทางโบราณคดีพบรูปสลักในปิรามิดซาการ่า แสดงรูปสุนัขกัดแอนติโลปตัวย่อม
ๆ และมีรูปหินสลักฟาโรห์ เรนู และราชินี เดเด็ต (Pharaoh Ranu and Queen
Dedet) ที่ซึ่งใต้ที่ประทับของฟาโรห์มีรูปของสุนัขที่ลักษณะคล้ายบาเซ็นจิอยู่
และเทพองค์หนึ่งที่เป็นที่นับถือของชาวอียิปต์โบราณ คือ อนูบีส (Anubis) ก็มีหัวเป็นสุนัขคล้ายบาเซ็นจิด้วย แต่อารยธรรมตะวันตกเพิ่งจะได้ค้นพบสุนัขสายพันธุ์นี้ในประเทศองโกเป็นที่แรก
สำหรับคำว่า "บาเซ็นจิ" เป็นภาษาสวาฮีลี แปลว่า
"สิ่งที่อยู่ในพุ่มไม้" ทั้งนี้
สมัยก่อน สุนัขบาเซ็นจิ เป็นสุนัขที่ชนเผ่าพื้นเมืองในแอฟริกา ใช้เป็นสุนัขล่าเนื้อ
และเตือนอันตรายจากสัตว์อื่น ๆ หลังจากนั้นไม่นาน สุนัขพันธุ์บาเซ็นจิ
ก็ถูกนำมายังอังกฤษในปี 1937 เพื่อนำมาพัฒนาสายพันธุ์ แต่ในช่วงแรกก็ไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะบาเซ็นจิไม่มีภูมิคุ้มกันโรคหัดสุนัข จึงพากันล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่ในที่สุด
บาเซ็นจิ รุ่นต่อมาก็ถูกผสมพันธุ์ได้สำเร็จ และเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายจนถึงปัจจุบันนี้
ลักษณะภายนอก
สุนัขพันธุ์บาเซ็นจิเป็นสุนัขขนสั้น
รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม หลังตรง คล้ายกวางขนาดเล็ก รูปร่างถือว่าไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับสุนัขล่าเนื้อชนิดอื่น
ๆ หน้าแหลม หูแหลมชี้ตั้ง หน้าผากย่น หางขดเป็นวง ปลายหางมีสีขาว ขนมีสีน้ำตาลแดง
สีดำ มีลายสีดำบนขนสีน้ำตาลแดง ปลายเท้า หน้าอก การเยื้องย่างสง่าเหมือนม้า มีความสูงประมาณ
40 - 43 เซนติเมตร น้ำหนัก 9.5 - 11 กิโลกรัม
มีอายุโดยเฉลี่ย 16 ปี และมีลักษณะพิเศษคือ ไม่มีกลิ่นตัว และไม่เห่า จัดว่าเป็นสุนัขชนิดเดียวในโลกที่ไม่เห่า
เมื่อเวลาจะส่งเสียงขู่จะเพียงแค่คำรามสั้น ๆ ในลำคอ
ลักษณะนิสัย
สุนัขพันธุ์นี้มีความร่าเริง ฉลาด สง่างามและมีความสามารถรอบตัวสูง
พวกมันเป็นสุนัขที่รักษาความสะอาด ชอบเลียขนรักษาความสะอาดให้ตัวเอง
ราวกับแมวเลยทีเดียว จึงทำให้มันเป็นสุนัขที่ไม่มีกลิ่นตัว และยังสามารถฝึกการขับถ่ายได้ง่ายอีกด้วย
มันมีสัญชาติญาณความเป็นนักล่าสูงอันเป็นลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ และรักอิสระ
จึงไม่ชอบให้ใครมาบังคับขู่เข็ญ นอกจากนี้ บาเซ็นจิเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรกับทุกคนในครอบครัว
รวมทั้งเด็ก ๆ โดยหากว่าสัญญานอันตรายเข้ามาใกล้
มันจะยิ่งปกป้องเด็กเล็กมากกว่าปกติด้วย
ปัญหาสุขภาพของสายพันธุ์
สุนัขพันธุ์บาเซ็นจิ มักมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคขาดเม็ดเลือดแดง
โรคเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ โรคจอรับภาพเสื่อม โรคไตจากกรรมพันธุ์ ซึ่งต้องคอยติดตามดูอาการที่อาจกำเริบได้ทุกเมื่อ
เงื่อนไขในการเลี้ยงสุนัขบาเซ็นจิ
ถ้าหากจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์บาเซ็นจิ เจ้าของต้องมีสถานที่และเวลาพาสุนัขพันธุ์นี้ไปออกกำลังกายทุกวัน
เนื่องจากมันเป็นสุนัขที่มีความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉงสูงและต้องการการเคลื่อนไหว
จึงต้องมีบริเวณให้มันได้วิ่งเล่น นอกจากนี้ บาเซ็นจิ ยังเป็นสุนัขที่ชอบเคี้ยว
แทะมาก ดังนั้นการหาของเล่นให้เขาได้แทะเล่นจึงเป็นสิ่งที่ควรจะทำ
อย่าง ไรก็ตาม
ถึงสุนัขพันธุ์ บาเซ็นจิ จะมีสัญชาตญานนักล่าประกอบกับความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัสทางด้านการมอง
ดมกลิ่น และฟังเสียง แต่ก็เป็นข้อด้อยของมันได้ในหลาย ๆ เหตุการณ์ เช่น ถ้ามันกำลังตามล่าดมกลิ่นสิ่งหนึ่ง
ๆ อยู่ มันก็จะไม่ทันระวังพอจะได้ยินเสียงรถที่กำลังแล่นมาเป็นสาเหตุที่ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ต้องจบชีวิตลง ดังนั้น จึงควรจะต้องมีรั้วกั้นดี ๆ ที่แน่นหนาพอไม่ให้มันหลุดออกไปนอกบ้านโดยไม่มีเจ้าของไปด้วย
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment