Wednesday, November 20, 2013

โคมอนดอร์ หมาม็อบยักษ์จากฮังการี สายพันธุ์สุนัขเก่าแก่ที่สุดในโลก




        สุนัข ที่คนทั่วไปนิยมนำมาเลี้ยงมักจะเป็นสุนัขที่มีหน้าตาน่ารัก ตัวเล็กน่าทะนุถนอม หรือไม่ก็เป็นสุนัขตัวใหญ่ ร่างกายกำยำขนสั้น เอาไว้ใช้เฝ้าบ้าน และเป็นเพื่อนเล่นยามเหงา แต่หลังจากที่มี ฟอร์เวิร์ดเมล์ถูกส่งต่อกันมา ทำให้รู้ว่าในโลกใบนี้ยังมีสุนัขหน้าตาแปลกประหลาดอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น้อยคนนักจะรู้จัก หรือรู้จักแค่ฉายา "หมาม็อบ" ของพวกมันเท่านั้น ดังนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จัก หมาม็อบ หรือ โคมอนดอร์ ให้มากขึ้นกันดีกว่า

           สุนัข โคมอนดอร์ ถือว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และยังมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนเชื่อว่า โคมอนดอร์ เป็นสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุด เนื่องจากเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ปรากฏอยู่ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี (ประมวลกฎหมายที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าฮัมมูราบีแห่งจักรวรรดิบาบิโลน เมื่อประมาณ 1750 ปีก่อนคริสตศักราช) แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ สุนัขโคมอนดอร์ ได้กลายเป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองของประเทศฮังการีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีหลักฐานการพบสุนัขโคมอนดอร์ครั้งแรกในประเทศฮังการี เมื่อประมาณปี ค.ศ. 800 ว่ากันว่าถิ่นกำเนิดที่แท้จริงอยู่บริเวณทางตอนใต้ของรัสเซีย ก่อนที่แพร่หลายเข้าไปในประเทศฮังการี


           นอกจากประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของสุนัขโคมอนดอร์แล้ว รูปร่างหน้าตาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะขนของสุนัขสายพันธุ์นี้แลดูเหมือนขนของม็อบหรือผ้าถูพื้น ที่มาของฉายา "หมาม็อบ" ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มเส้นขนกว่า 2000 เส้น น้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัม โดยขนของโคมอนดอร์จะเริ่มจับกันเป็นกลุ่มตั้งแต่อายุ 6-9 เดือน พร้อมพันเกลียวเต็มที่เมื่ออายุ 2 ปี และขนของโคมอนดอร์ก็จะยาวเรื่อยตามความสูงของพวกมัน ซึ่งความสูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 90 เซนติเมตร ประโยชน์ของขนที่ทั้งหนาทั้งยาวแบบนี้ ก็มีเอาไว้เพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันความหนาวเย็น และพรางตาจากคู่ต่อสู่ เช่น หมาป่า โคโยตี้ หรือหมาจิ้งจอกที่จะมากินฝูงแกะนั่นเอง

          คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงสุนัขโคมอนดอร์เอาไว้เพื่อช่วยควบคุมฝูงปศุสัตว์ และปกป้องฝูงสัตว์จากบรรดาสัตว์นักล่า แต่ในปัจจุบันก็มีบางส่วนที่เลี้ยงเอาไว้เป็นสัตวเลี้ยงด้วยเหมือนกัน สำหรับคนที่ต้องการจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ควรจะมีพื้นที่บริเวณบ้านพอสมควร เพราะต้องพาพวกมันไปออกกำลังกายทุกวัน และเนื่องจากพื้นฐานเดิมเป็นสุนัขต้อนฝูงสัตว์ ดังนั้นจึงอาจไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้ามากนัก ที่สำคัญก็คือ ผู้เลี้ยงจะต้องดูแลความสะอาดของเส้นขนโดยหมั่นแกะก้อนขนให้คลายออกเป็นก้อน ๆ พร้อมทั้งกำจัดสิ่งสกปรกอยู่เสมอ นอกจากนี้ควรฝึกโคมอนดอร์ตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากเป็นสุนัขที่ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง และดื้อรั้นมากเมื่อโตขึ้น แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงไม่ต้องกังวลเลยก็คือ ขนของโคมอนดอร์จะไม่ค่อยหลุดร่วงบ่อยเหมือนสายพันธุ์ทั่วไป

          อย่างไรก็ดี มีอีกหนึ่งเรื่องที่น่าจะทำให้หลายคนรู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ถึงแม้โคมอนดอร์จะมีลักษณะที่แปลก แตกต่าง แถมขนก็ยังพันกันยุ่งเหยิงขนาดนี้ แต่ค่าตัวของโคมอนดอร์สูงถึง 7 หลักเลยทีเดียว 

  


No comments:

Post a Comment