Sunday, November 25, 2012

ทำอย่างไรถ้าสุนัขแพ้อาหาร?



ในปัจจุบันนี้ เราสามารถพบสุนัขที่มีปัญหาในเรื่องของการแพ้อาหารมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะมีสุนัขบางสายพันธุ์ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะของการแพ้อาหารมากกว่า พันธุ์อื่นๆ เป็นต้นว่า สุนัขพันธุ์ West Highland White Terrier สุนัขพันธุ์ Shih -Tzu  


โดยอาการที่พบในสุนัขนั้น จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ความรุนแรงในสุนัขแต่ละตัว ซึ่งเราสามารถพบสุนัขที่มีอาการแพ้อาหารได้ในทุกช่วงอายุไม่มีกำหนดตายตัวว่าอาหารชนิดนี้เคยกินมาแต่แรก แล้วจะไม่ก่อให้เกิดการแพ้ในเวลาต่อมา และในขณะเดียวกันการแพ้อาหารของสุนัขนั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับช่วงฤดูกาลหรือ การถ่ายทอดทางพันธุกรรมแต่อย่างใด เช่น เป็นต้นว่า มีสุนัขที่เป็นลูก พ่อ แม่เดียวกัน เป็นพี่น้องคอกเดียวกัน ไม่จำเป็นว่า สุนัขทุกตัวในคอกนี้จะเกิดการแพ้อาหาร 


โดยเราจะพบอาการในสุนัขที่แพ้อาหารได้ดังต่อไปนี้ โดยอาจเริ่มจาก พบสุนัขมีผื่น แดง คันเกา ตามตัว บางรายอาจพบเป็นลักษณะรังแคเกาะอยู่ตามเส้นขนและผิวหนัง บางตัวจะคันและเกามาก ซึ่งนำไปสู่ การเกิดแผลมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ ที่ผิวหนังแทรกซ้อนตามมา ในขณะที่บางรายจะพบเริ่มจากมีภาวะของการอักเสบที่ช่องหูส่วนนอก (Otits Externa) มีผนังหูที่หนาแดงอักเสบอย่างมาก เมื่อทำการรักษาก็จะดีขึ้นช่วงหนึ่งและหลังจากนั้นไม่นานก็กลับมาเป็นใหม่ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากยังไม่ได้ทำการรักษาหรือแก้ไขสาเหตุที่แท้จริง 


ในสุนัขบบางรายที่มีการอักเสบที่ผิวหนังอย่างเรื้อรัง อาจพบผิวหนังมีการหนาตัวขึ้นและมีเม็ดสีมารวมกลุ่มกันในตำแหน่งผิวหนังที่ อักเสบเรื้อรังนั้น การมีเม็ดสีมารวมกลุ่มกันที่ผิวหนัง เราจะเห็นว่าบริเวณนั้นเป็นสีดำและมักร่วมกับการหนาตัวของผิวหนังบริเวณนั้นด้วย โดยเรามักพบการอักเสบของผิวหนังบริเวณดังต่อไปนี้ได้บ่อยในรายที่เป็นสุนัข แพ้อาหาร เช่น ใบหู เท้า ขาหนีบ รักแร้


ทีนี้หากสุนัขของเจ้าของท่านใดมีอาการหรือลักษณะของผิวหนังเข้าข่ายตามที่เขียนมานี้ก็คง ต้องปรึกษาสัตวแพทย์ใกล้บ้านท่าน เพื่อทำการรักษาและวินิจฉัยโรคต่อไป โดยจะมีโรคผิวหนังที่มีสาเหตุจากอื่นๆ อีกหลายประการที่มีอาการคล้ายคลึงกับการแพ้อาหารนี้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากในการที่เจ้าของสุนัขจะต้องทำการรักษาและพบสัตวแพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนัง เพื่อคุณหมอได้ทำการแนะนำ และให้แนวทางในการรักษา ป้องกัน อย่างถูกต้อง ซึ่งในวันนี้จะขออนุญาตอย่างคร่าว ๆ ถึงวิธีการของการตรวจวินิจฉัยโรคเมื่อสัตวแพทย์เริ่มต้องสงสัยว่า สุนัขตัวนั้นๆเริ่มเข้าข่ายว่าแพ้อาหารค่ะ 


การวินิจฉัยสุนัขที่มี ปัญหาของการแพ้อาหารนี้ต้องอาศัยความร่วมมือของเจ้าของสุนัขและความอดทนเป็นอย่างมาก โดยเราจะเริ่มต้นจากการทำทดสอบโดยวิธี Food Trial (ขออนุญาตใช้ทับศัพท์ เนื่องจากแปลออกมาเป็นภาษาไทยไม่ถูก) วิธีนี้หมายถึงว่าเราจะให้สุนัขรายที่ต้องสงสัยว่าแพ้อาหารใช้ อาหารสูตร Hypoallergenic ซึ่งหมายถึงอาหารสูตรดังกล่าวจะมีส่วนประกอบของอาหารที่ทำให้เกิดการกระตุ้นกระบวนการแพ้อาหารน้อยที่สุด 


ซึ่งปัจจุบันก็มีอาหารสุนัขหลายยี่ห้อที่ทำสูตร Hypoallergenic นี้ออกมา โดยอาหารสูตรที่ว่านี้จะเกิดจากการนำโปรตีนที่เป็นแหล่งวัตถุดิบของอาหาร นั้นมาเปลี่ยนแปลงขนาดอนุภาคย่อยของออกมาให้เป็นขนาดเล็กจนกระทั่งร่างกาย ของสุนัขเองไม่สามารถจับได้ว่านี่คือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายแล้วไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังตามมา 

โดยการให้อาหารชนิดนี้มีข้อแม้ว่า ในระหว่างช่วงที่มีการทดสอบเรื่องของการใช้อาหารนี้ สิ่งที่สามารถผ่านจากปาก ของสุนัขลงสู่กระเพาะอาหารจะมีเพียงแค่สองสิ่งเท่านั้น คือ น้ำ และ อาหารสูตร Hypoallergenic โดยจะให้ทำการกินต่อเนื่องกันอย่างน้อย 10-12 สัปดาห์ หากเมื่อเริ่มต้นกินอาหารชนิดนี้ไปแล้วประมาณ 6 สัปดาห์ ถึงพอจะบอกคร่าวๆ ได้ว่าสุนัขต้องสงสัยว่าแพ้อาหารจริงหรือไม่ โดยที่สุนัขที่ต้องสงสัยนี้จะมีอาการต่างๆ ที่เป็นอยู่สงบลงไปในระหว่างที่ทำ การทดสอบนี้ ในขณะเดียวกันอาหารหรือของกินดังต่อไปนี้ ต้องทำการหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาดในช่วงนี้ที่มีการทำ Food Trial : ขนมขบเคี้ยว (Treat) ของกิน-อาหารระหว่างมื้อที่เจ้าของกิน ตัวยาทั้งหลายที่ผลิตออกมาในรูปแบบคล้ายขนมให้พร้อมกินได้เลย ( Chewable Form) ใบหูของสัตว์ที่ให้สุนัขใช้กัดแทะ กีบสัตว์ เนยถั่วที่ใช้ทาขนมปัง ขนมปังทั้งหลาย ชีส ผลไม้ นม และที่มักจะมองข้ามไปบ่อยๆ คือ ยากินป้องกันพยาธิหนอนหัวใจที่ผลิตออกมาในรูปของชิ้นเนื้อ ไข่และผลผลิตทั้งหลายจากไข่ไม่ว่าจะเป็นไข่จากไข่ไก่หรือไข่เป็ดก็ตาม

และหลังจากที่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนแล้ว เราก็จะเริ่มทำการให้สุนัขค่อย ๆ ให้อาหารอื่นทีละอย่างเข้ามาผสมกับอาหารสูตร Hypoallergenic แล้วดูการตอบสนองของสุนัขต่ออาหารที่กินเข้าไป โดยหากสุนัขมีอาการแพ้อาหารกลับมาใน 7-10 วัน แสดงว่าอาหารชนิดนั้นสุนัขแพ้และนี่คือเหตุผลที่เราต้องค่อยๆ ทำและผสมอาหาร เข้าไปทีละชนิดแล้วค่อยดูไป ถ้าแพ้อาหารก็หยุดให้ แล้วกลับมาใช้สูตร Hypoallergenic ก่อนจนอาการของการแพ้อาหารสงบลง จากนั้นก็เริ่มต้นทำการทดสอบอาหารชนิดที่สองต่อมา โดยทำการผสมกับอาหารสูตร Hypoallergenic เช่นเดิมจนสุดท้ายได้ข้อมูล สรุปว่า สุนัขแพ้อะไรบ้าง ซึ่งก็มีเหมือนกันที่สุนัขบางรายกินอาหารสำเร็จรูป ไม่ว่าจะใช้ยี่ห้อใดก็ยังไม่หาย ในกรณีนี้เจ้าของต้องปรับอาหารที่จะให้สุนัขมาเป็น Home Made หรือทำเอง เนื่องจากสุนัขบางตัวก็มีความไวต่อสารต่างๆที่ปนมาในอาหารเม็ดไม่ว่าจะเป็น ตัวถนอมอาหารเม็ด (Preservative) หรือ สี ก็ตามที่ใส่ผสมมาในอาหารสำเร็จรูปนั้นๆ

หลักๆ ของการรักษาก็ เป็นดังที่กล่าวมาในข้างต้น ซึ่งในช่วงแรกอาจร่วมกับการให้ยาต่างๆไม่ว่าจะเป็นยาต้านการแพ้ กรดไขมันต่างๆที่ให้เสริมเพื่อบำรุง ขน และผิวหนัง ยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน การให้ยากินเพื่อควบคุมยีสต์ที่ผิวหนังหรือแม้แต่การใช้แชมพูยาเพื่อควบคุม ภาวะของแบคทีเรียและยีสต์ที่ผิวหนังและรวมถึงการล้างทำความสะอาดและให้ยาใน การรักษาช่องหูส่วนนอกในรายที่มีการอักเสบของช่องหูส่วนนอกเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งในปัจจุบันก็มีอาหารสำเร็จรูปอยู่หลายยี่ห้อที่พยายามพัฒนาสูตรอาหาร เพื่อให้เหมาะสมและใช้ได้กับสุนัขที่มีปัญหาของการแพ้อาหารค่ะ ซึ่งก็รวมไปถึงอาหารยี่ห้อ Proplan ด้วยที่มีสูตร Sensitive Skin and Stomach ค่ะ


แหล่งที่มา  http://www2.nestle.co.th
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/explore/corgi-puppies/



No comments:

Post a Comment