Monday, December 17, 2012

การปฐมพยาบาลสุนัข เบื้องต้น



อุบัติเหตุหรือความเจ็บไข้ได้ป่วยมักเกิดขึ้นได้เสมอ ผู้เลี้ยงจึงควรเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตสุนัข ก่อนที่จะนำไปหาสัตวแพทย์
การห้ามเลือด นิสัยซุกซนมีในสุนัขทุกตัว บางครั้งจึงเป็นเหตุให้เกิดบาดแผล ถึงไม่เพราะเหตุซุกซน ก็อาจเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ เช่น ลำไส้อักเสบ ถ่ายเป็นเลือด สิ่งที่ต้องทำคือ การห้ามเลือด

ถ้าเลือดไหลภายนอกเนื่องจากเป็นแผลด้วยสาเหตุอันใดก็ตาม ก็ควรจะห้ามเลือด และป้องกันเชื้อโรคเข้าบาดแผล ด้วยการล้างแผลด้วยสบู่และน้ำ การห้ามเลือดทำได้ตั้งแต่ใช้วิธีกดบริเวณที่มีเลือดไหลออกมาด้วยผ้าก๊อต หรือผ้าสะอาดสักพักหนึ่ง ถ้าแผลไม่ลึกหรือใหญ่เกินไปเลือดก็จะหยุดเอง ถ้าแผลเกิดบริเวณช่วงลำตัวหรือหัว มีเลือดออกมา ก็ใช้ผ้าก๊อตกดปากแผลหรือพันรัดให้แน่น รีบนำส่งหมอทันที เพราะสาเหตุดังกล่าวอาจเกิดจากการฉีกขาดของอวัยวะภายใน ถ้าเป็นแผลเลือดออกในส่วนที่เป็นขาหรือเท้าต้องใช้วิธีขันชะเนาะ โดยใช้เชือกหรือผ้าพันแผลเหนือบาดแผล แล้วสอดดินสอหรือไม้ ควั่นเชือกให้ตึงจนเลือดหยุดไหล แต่อย่าลืมคลายชะเนาะทุกๆ 10 นาที เพื่อให้เลือดมาเลี้ยงส่วนที่ถูกขันชะเนาะ มิฉะนั้นจะทำให้เนื้อส่วนนั้นตาย

สุนัขที่ปัสสาวะเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด เหงือกซีดมาก อาหารเหล่านี้แสดงว่ามีเลือดตกใน หรือสาเหตุอาจมาจากแผลในกระเพาะ โรคบิด หรือสารพิษบางชนิด ซึ่งต้องนำส่งหมอทันที อย่ารักษาเอง
กระดูกหัก เมื่อเกิดอุบัติเหตุ สุนัขอาจเกิดกระดูกหัก ซึ่งอาจมีบาทแผลหรือไม่มีก็ได้ เช่น กระดูกหัก กระดูกเคลื่อน ขาหักและทิ่มแทงทะลุออกข้างนอก หรือกระดูกซี่โครงหักทิ่มแทงอวัยวะภายใน แต่ที่พบมากคือกระดูกขาหักซึ่งต้องทำการปฐมพยาบาลก่อนส่งสัตวแพทย์ โดยการเข้าเฝือก เฝือกอาจใช้วัสดุที่หาได้ง่าย เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์นำมาม้วนเป็นท่อน ดินสอ ปากกา ท่อนไม้ กิ่งไม้ นำมาดามกับขาส่วนที่หักทั้งสองด้าน แล้วมัดด้วยเชือกหรือผ้าตอนหัวหรือท้ายพอประมาณ อย่าให้แน่นหรือตึงเกินไปจนเลือดไหลไปมาไม่ได้ มัดพอไม่ให้เกิดความขยับเขยื้อนของกระดูกส่วนที่หัก และไม่ควรไปจัดกระดูกให้เข้าที่ถ้าไม่รู้วิธีทำเพราะจะเกิดผลร้ายมากกว่า ผลดี ถ้าหากกระดูกหักทะลุออกนอกเนื้อ ก็ให้ใช้ยาใส่แผลสด แล้วใช้ผ้าก๊อชสะอาดปิดปากแผลไว้ชั่วคราว พร้อมกับดามกระดูกส่วนที่หักตามปกติ จึงนำส่งสัตวแพทย์

อาเจียน สาเหตุของการอาเจียนในสุนัขมีหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปทำให้เกิดการระคายเคืองในบริเวณลำคอ เช่น เศษกระดูก เศษอาหารติดค้างในลำคอ, กินอาหารมากเกินไป เร็วไป หรืออาหารเป็นพิษ, กินยาพิษ สารพิษพวกยาเบื่อหนู เบื่อแมลง หรือเกิดจากโรคต่างๆ เช่น โรคติดเชื้อ, โรคที่เกิดจากความสมดุลของร่างกาย เช่น ความเป็นกรดเป็นด่างในกระแสเลือดมากไป, โรคตับอักเสบ, โรคลำไส้อักเสบ, โรคกระเพาะ หรือแม้แต่โรคที่เกี่ยวกับประสาท ที่เกิดจากทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น ถูกทอดทิ้ง ถูกดุด่าและความเครียด เหล่านี้เป็นต้น

เมื่อเห็นว่าสุนัขอาเจียน ควรสังเกตดูว่ามีลักษณะเช่นไร เช่นสังเกตดูว่าสิ่งที่อาเจียนออกมานั้นมีลักษณะอย่างไร มีอาหารหรือสิ่งอื่นใดออกมาจากกระเพาะ อาเจียนมากน้อยถี่ห่างแค่ไหน เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลหาสาเหตุของการอาเจียน และบอกเล่าให้หมอวินิจฉัยโรคได้สะดวก การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ถ้าสุนัขอาเจียนโดยไม่มีอาการอย่างอื่น ก็ควรงดการให้อาหารและน้ำ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารได้พักตัว ไม่มีสิ่งใดไปกระตุ้นการอาเจียนอีกหากสุนัขกระหายน้ำมาก ก็อาจให้เลียก้อนน้ำแข็ง หรือกินน้ำเล็กน้อย หรือถ้าหิวมากก็ให้กินไข่ขาวซึ่งตีเป็นน้ำเหลวครั้งละ 1 ช้อนชา ทุกๆ 20-30 นาที จนกว่าจะทุเลา แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ให้รีบนำส่งสัตวแพทย์
กินยาเบื่อยาพิษ สุนัขอาจกินยาเบื่อยาพิษเข้าไปด้วยอุบัติเหตุหรือคนร้ายโยนให้กิน ถ้าผู้เลี้ยงอยู่ไกลที่จะให้สัตวแพทย์ช่วยได้ทัน ก็ควรจะปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อนได้ อาการของสุนัขที่กินยาพิษเข้าไปได้แก่ ปวดท้อง หอนหรือเห่า ร้องโอ๊ก หรือร้องหงิงๆ กล้ามเนื้อสั่น อาเจียน หายใจลำบาก ชัก ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติเมื่อสุนัขกินยาเบื่อยาพิษคือ ขั้นแรกทำให้สุนัขอาเจียนขจัดเอาสารพิษในตัวออกก่อน โดยการให้น้ำอุ่นละลายเกลือ แล้วกรอกใส่ปากสัก 1-2 ลิตร น้ำเกลือจะไปกระตุ้นให้สุนัขอาเจียน สำรอกเอาเศษยาเบื่อยาพิษออกมาได้บ้าง จากนั้นจึงทำการดูดซับสารพิษที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่ให้ซึมเข้ากระแสโลหิต โดยการใช้ถ่านนำถ่านมาตำให้ละเอียด 1-2 กำมือ พร้อมกับน้ำต้มครึ่งลิตร คนให้เข้ากันดี กรอกให้สุนัขกินจนหมด ถ้าไม่มีถ่านจะใช้ไข่ขาว 2-4 ฟอง กรอกให้กิน

ถ้าสุนัขกินอาหารที่บูดเน่า สุนัขจะมีอาการท้องเดินอย่างแรง บางครั้งมีเลือดปนอุจจาระ อาเจียน เจ็บบริเวณท้อง อ่อนเพลีย ก็ให้กินไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำหนักสุนัข 5 กิโลกรัม เมื่ออาการปกติแล้วควรให้กินยาระบาย เพื่อขับถ่ายพิษที่เหลือต่อไป



แหล่งที่มา  http://www.dogandpuppystory.com 
เครดิตภาพ  http://www.lovethispic.com/image/214276/happy-dog


No comments:

Post a Comment