สิ่งแรกที่สุนัขต้องรู้จักคือ ชื่อของมัน การตั้งชื่อสุนัขให้ถือหลักการออกเสียงและการจดจำได้ง่าย ควรเป็นคำสั้น ๆ ไม่เกิน 2 พยางค์ สมาชิกทุกคนในบ้านควรมีส่วนในการตั้งชื่อด้วย เพื่อให้ได้ชื่อที่เหมาะสมที่สุด การเปลี่ยนชื่อสุนัขบ่อย ๆ จะทำให้สุนัขสับสน เพราะลูกสุนัขจะจำชื่อตัวเองได้เร็วมาก ยิ่งเป็นคำสั้น ๆ กะทัดรัด และหนักแน่นเท่าไร สุนัขก็จะยิ่งจำได้ง่ายขึ้นเท่านั้น และเมื่อมีชื่อแล้วก็ต้องหมั่นเรียกบ่อย ๆ เพราะถ้ายิ่งเรียกบ่อย สุนัขก็จะจำได้ง่ายขึ้น และเป็นประโยชน์ในการฝึกต่อไปอย่างมาก
1. การฝึกสุนัขให้ถ่ายเป็นที่เป็นทาง ก่อนอื่นควรจะกำหนดสถานที่ที่เหมาะสมเอาไว้ เช่น ห้องส้วม หรือมุมใดมุมหนึ่งในบ้าน ต่อไปต้องพยายามสังเกตอาการของสุนัขว่ามันต้องการถ่ายหรือยัง ตามปกติลูกสุนัขมักจะร้องคราง ดมกลิ่นที่พื้นหรือวิ่งวนเป็นวงกลม นั่นแสดงว่าต้องการขับถ่าย ลูกสุนัขอายุ 3-6 เดือน จะขับถ่ายประมาณวันละ 5 ครั้ง อายุ 6 เดือน วันละ 4 ครั้ง สุนัขโตแล้ววันละประมาณ 3 ครั้ง ลูกสุนัขมักต้องการถ่ายปัสสาวะเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า หรือหลังกินอาหารแต่ละมื้อ
เมื่อ พบว่าสุนัขต้องการขับถ่าย จะต้องรีบพาไปยังสถานที่ที่เตรียมไว้ทันที ทำเช่นนี้ 2-3 ครั้งสุนัขก็จะทำได้ อย่าปล่อยให้ขับถ่ายเรี่ยราดตามที่ต่าง ๆ หากสุนัขทำผิดก็อย่าไปตีหรือลงโทษอย่างอื่นควรใช้เสียงดุว่า “ไม่” แล้วรีบนำไปยังสถานที่ที่เตรียมไว้ เมื่อสุนัขปฏิบัติได้ ก็ควรชมเชยเพื่อให้เข้าใจว่าได้ทำถูกต้องแล้วบ่อย ๆ ครั้งเข้าลูกสุนัขย่อม เกิดการเรียนรู้ และผลสุดท้ายก็จะไปถ่ายตามที่เตรียมไว้อย่างอัตโนมัติ
2. ฝึกการกินอยู่หลับนอน การกินอาหารของสุนัขก็ต้องได้รับการฝึกหัดเช่นกัน หากเลี้ยงสุนัขหลายตัวควรแยกสถานที่ให้สุนัขกินให้ห่างกัน เพื่อป้องกันการแย่งกินอาหารและหวงอาหาร ครั้งใดที่สุนัขกินอาหารไม่หมดก็ให้รีบเก็บจานเสีย อย่าทิ้งไว้ให้กินอีกต่อไป จะทำให้สุนัขนิสัยไม่ดี กินอาหารไม่เป็นเวล่ำเวลา หรือแม้แต่การที่สุนัขได้รับอาหารจากบุคคลอื่นนอกเวลาอาหารก็เป็นสิ่งไม่ดี เป็นการเพาะนิสัยให้เป็นสุนัขขอทานได้ จึงควรต้องระวังไม่ให้รับอาหารจากบุคคลอื่นยกเว้นเจ้าของ
ลูกสุนัขจึงควรมีที่หลับนอนเป็นสัดส่วน ของตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ควรนำลูกสุนัขไปนอนร่วมห้อง หรือบนเตียงด้วยความสงสารหรือเพราะเหตุผลใด ๆ เพราะถ้าเริ่มเลี้ยงจากการเอเาไว้ในบ้าน พอลูกสุนัขเริ่มโต หากจับย้ายออกไปขังกรงนอกบ้าน ลูกสุนัข หรือแม้แต่โตแล้วส่วนใหญ่จะไม่ยินยอม เพราะมันคิว่าเป็นการถูกทอดทิ้ง อาจจะร้องไห้หวยหวนทั้งคืน จะทำให้เจ้าของบ้านหรือเพื่อนบ้านไม่เป็นอันหลับอันนอน เนื่องจากเสียงหนวกหูจากสุนัข
3. ฝึกป้องกันนิสัยชอบกัดแทะสิ่งของ เป็นธรรมชาติของลูกสุนัขทั้งหลายที่ซนและชอบกัดแทะสิ่งของต่าง ๆ เพราะมันเริ่มมีฟันจึงกัดแทะเครื่องใช้สิ่งของในบ้าน ลูกสุนัขต้องการกัดแทะสิ่งของเพื่อความสะอาดของฟัน นวดเหงือกขจัดฟันน้ำนมให้หลุดเร็ว ๆ รวมทั้งการระบายความเครียด หรือเพราะไม่มีอะไรทำ ไม่มีใครเล่นด้วย จึงหาสิ่งของมากัดเล่น
ควรหาเครื่องเล่นสำหรับสุนัข เช่น ลูกบอลเล็กหรือกระดูกยาง หรือวัสดุที่ทนทานต่อการกัดแทะให้สุนัขกัดเล่น ป้องกัดไม่ให้ไปทำลายสิ่งของอื่นในบ้าน เมื่อเห็นว่าสุนัขกัดสิ่งของอื่น ๆ ที่ไม่ประสงค์ต้องออกคำสั่งว่าอย่า หรือไม่ แล้วจับปากแยกออกพร้อมดึงของออกจากปาก อย่าพยายามดึงสิ่งของที่สุนัขคาบอยู่ เพราะสุนัขอาจคิดว่าเราอยากเล่นกับมันด้วย ใช้น้ำเสียงดุและปฏิบัติที่ถูกต้อง ก็จะจำได้
แหล่งข้อมูลที่มา...www.thailanddogs.com
เครดิตภาพ https://www.expatads.com/212-Aruba/showadpic/14-Pets-Animals/175-Adopt-Dogs-Puppies/6013732-Cute-Labrador-Retriever-Puppies-for-rehoming-nbowen233-gt-g-gt-m-gt-a-gt-i-gt-l-gt-gt-c-gt-o.html?selectpic=7664792
No comments:
Post a Comment