โรคภูมิแพ้ของคนเราแตกต่างกันออกไป
บางคนแพ้เกสรดอกไม้ บางคนแพ้ฝุ่นละออง บางคนก้อแพ้ขนสัตว์
แต่ภูมิแพ้ทุกชนิดต่างก็มีวิธีป้องกันได้ ถ้าเลี้ยงสัตว์ก็อยู่ที่การดูแล
การทำความสะอาด
ที่จริงแล้วสารก่อภูมิแพ้ในสุนัขนั้น คือ โปรตีนที่อยู่ในเศษขี้ไคล น้ำลายและฉี่ ซึ่งสุนัขทุกตัวมีโปรตีนเหล่านี้ อาการของการแพ้สัตว์เลี้ยงคือ ไอ คัน ตามีน้ำตาไหล น้ำมูกไหล จามคัดจมูก หายใจลำบาก หอบหืด ผื่นคันที่ใบหน้า คอ แขนขาและลำตัว อาการเหล่านี้มักกำเริบหลังสัมผัสสัตว์เลี้ยงภายใน 30 นาที แต่ในบางรายก็อาจแสดงอาการในเวลาหลายชั่วโมง
อาการแพ้สัตว์เลี้ยงพบบ่อยในผู้ที่ชอบนำสัตว์เลี้ยงมาไว้ในห้องนอน
ผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สัตว์ในการทดลอง สัตวแพทย์ ช่างแต่งขนสุนัข การแพ้สุนัข แมว
และม้า เกิดจากโปรตีนที่พบในเศษขี้ไคล น้ำลาย และฉี่ ส่วนการแพ้กระต่าย
หนูแฮมสเตอร์ หนูตะเภา หนูแก็ตสบีนั้น เป็นการแพ้โปรตีนที่อยู่ในฉี่มากกว่า
คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่ต้องการเลี้ยงสุนัขจริงๆ
อาจต้องปรึกษาแพทย์ และไม่ควรให้สุนัขเข้าห้องนอน
เพราะเศษขี้ไคลสุนัขมักสะสมตามหมอน ผ้าปูเตียง
และให้ซักผ้าปูที่นอนปลอกหมอนด้วยน้ำร้อนจัด ควรอาบน้ำให้สุนัขทุกสัปดาห์
หรือสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เวลาแปรงขนให้สุนัข ควรแปรงในที่โล่งและต้องสวมหน้ากาก
ถ้าสุนัขเป็นโรคผิวหนังต้องพาไปหาสัตวแพทย์ ต้องทำความสะอาดเสื้อ ที่นอน และของเล่นของสุนัขอย่างสม่ำเสมอ
เครื่องใช้ในบ้านเช่นโซฟา ควรบุด้วยหนังไม่ควรบุผ้า ควรล้างมือล้างหน้าหลังเล่นกับสุนัข
ถ้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับสุนัขแล้วควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย การสวมเสื้อให้สุนัขอาจช่วยลดการกระจายของเศษขี้ไคลจากผิวสุนัขลงได้
พื้นบ้านไม่ควรใช้พรมปูพื้นเพราะทำความสะอาดยากและกักเก็บเศษขี้ไคลสุนัข ให้ใช้เป็นพื้นไม้เนื้อแข็งหรือปูกระเบื้องจะทำความสะอาด
แหล่งที่มา นิตยสารหมอชาวบ้าน, http://www.108health.com
No comments:
Post a Comment