Tuesday, April 30, 2013

สงสัย? สนู้ปปี้ คือสุนัขพันธุ์อะไร



** “สนู้ปปี้” (Snoopy) ปรากฎตัวขึ้นครั้งแรก ในการ์ตูนชุด “แก๊งพีนัต“ ที่มีตัวละครเอกชื่อ “ชาร์ลี บราวน์

** วันเกิดของ สนู้ปปี้ snoopy  คือวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1950

** คนที่ให้กำเนิด สนู้ปปี้ และการ์ตูนชุดนี้คือ ชาร์ลส์ ชูซ (Charles Schulz)

** การ์ตูน แก๊งพีนัตเป็นการ์ตูนช่องๆ แบบการ์ตูนตลกของฝรั่ง อารมณ์เหมือนการ์ตูนเจ้าแมวการ์ฟิลด์ มันเป็นหมาของ เด็กผู้ชา ที่ชื่อชาร์ลี บราวน์ สมาชิกหลักของแก๊งพีนัต เรื่องราวก็จะเป็นเรื่องตลกแบบเด็กๆ น่ารักน่าอ่าน

** ส่วนบุคลิกของเจ้าหมาหูยาวนาม สนู้ปปี้ นี้ มันค่อนข้างจะเป็น “หมาแนว” คือเป็นตัวของตัวเอง วันๆ ก็เอาแต่ แพลงกิ้งอยู่บนบ้านหลังคาสีแดง ของมันเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้ามันไม่นอน มันจะชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเด็กๆ แก๊งพีนัต แถมมันเป็นหมารสนิยมเลิศชอบดนตรีและศิลปะอีกด้วย


** ในยุคที่การ์ตูนเรื่องนี้ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองอเมริกา มิสเตอร์ชาร์ลส์คนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ผู้ให้กำเนิด สนู้ปปีได้ออกมาระบุว่า สนู้ปปี้เป็นหมาที่เขานำต้นแบบมาจากหมาของเขาเอง มันชื่อ สไปก์เป็น “บีเกิล” ที่เขาเคยเลี้ยงสมัยเด็กๆ นั่นเองครับ


บีเกิล (อังกฤษ: Beagle) เป็นสายพันธุ์สุนัขมีถิ่นกำเนิดในประเทศสหราชอาณาจักร อยู่ในจำพวกกลุ่มสุนัขล่าเนื้อ (Hound) มีขนสั้นและหูปรก เป็นสุนัขที่มีประสาทด้านการดมกลิ่นเป็นเลิศ (scent hounds) ที่พัฒนาสายพันธ์ขึ้นมาครั้งแรก ด้วยจุดประสงค์เพื่อเป็นผู้ช่วยมนุษย์ ในกีฬาการล่าต่างๆ โดยเฉพาะการล่ากระต่าย ด้วยประสาทด้านการดมกลิ่นที่ไวมาก จึงได้มีการฝึกให้เป็นสุนัขตรวจสอบของผิดกฎหมาย อย่างเช่น ยาเสพติด วัตถุระเบิด ฯลฯ แต่บีเกิลยังได้รับความนิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงเช่นกัน ด้วยขนาดตัวที่พอเหมาะ เป็นสุนัขอารมณ์ดี และสุขภาพแข็งแรงทนทานต่อโรค ด้วยคุณสมบัตินี้เอง บีเกิลยังถูกใช้ในงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์อีกด้วย


สุนัขสายพันธุ์บีเกิลมีมากว่า 2000 ปีแล้ว และมีชื่อเสียงมากในยุคของพระนางอลิซาเบท (Elizabethan era) ซึ่งปรากฏในงานวรรณกรรม จิตรกรรม ภาพยนตร์ โทรทัศน์ และหนังสือการ์ตูนเรื่องสนู๊ปปี้ (Snoopy) ก็เป็นบีเกิลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดตัวหนึ่งของโลก



เรียบเรียงโดย: mata
ที่มา: th.wikipedia.org 


Monday, April 29, 2013

ลักษณะนิสัยที่โดดเด่นและบุคลิกเฉพาะตัวของสุนัขพันธุ์ปอมฯ



ใคร ๆ ก็ตามที่ได้เป็นเจ้าของสุนัข โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน คงรู้ว่า เค้าเป็นเพื่อนที่ดี และซื่อสัตย์ สามารถทำตัวให้เป็นที่รักและหลงใหลของใคร ๆ ที่มีโอกาสใกล้ชิด เพราะเค้าสามารถปรับตัวให้มีสถานภาพเปรียบเสมือนสมาชิกหนึ่งของครอบครัว เข้ากับวิถีชีวิตของเราได้อย่างง่าย ๆ 

ในขณะที่เราเลี้ยงดูเค้าให้มีความสุข เค้าก็ทำให้เรามีความสุขไปด้วยพร้อม ๆ กัน ทำให้เค้าสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างราบรื่นตลอดเวลา สุนัขพันธุ์ปอมฯ จึงมีลักษณะนิสัยที่โดดเด่นและบุคลิก
เฉพาะตัวที่พิเศษอยู่ในตัวของเค้าเอง 


พี่อ๋อยจึงขอจัดลำดับความสำคัญของนิสัยที่โดดเด่นของสุนัขพันธุ์ปอมฯ ดังนี้ค่ะ

1) ร่าเริง ตื่นตัวอยู่เสมอ และอยากรู้อยากเห็น สนใจกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว
2) มีความเฉลียวฉลาดมาก โดยเฉพาะแววตาที่แสดงออกถึงความฉลาดอย่างเด่นชัด
3) ว่องไว คล่องแคล่ว และปราดเปรียว
4) ขี้อ้อน ฉอเลาะ ชอบประจบ 
5) ชอบติดตามเจ้าของและรักการท่องเที่ยว
6) ชอบแต่งตัว รักสวยรักงาม รักความสะอาด
7) เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดีเลิศ มีประสาทสัมผัสที่ว่องไวมากและมีความชำนาญในการเตือนภัยกับการมาเยือนของคนแปลกหน้า โดยจะส่งเสียงแสดงความไม่พอใจเมื่อเห็นคนแปลกหน้า
8) เป็นมิตรต่อทุก ๆ คน และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ 
9) จริงใจและจริงจังต่อผู้เป็นเจ้าของ
10) ซื่อสัตย์และจงรักภักดี
11) สามารถฝึกให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่าย
12) ชอบเล่น สนุกสนาน
13) ชอบออกกำลังกาย 
14) กล้าหาญ ไม่เกรงกลัวใคร
15)  มีความมั่นใจในตัวเอง และมีความเป็นตัวของตัวเอง
16)  เป็นสุนัขที่คิดว่า ตัวเองใหญ่กว่าความเป็นจริง และไม่รีรอที่จะเข้าโจมตีสุนัขที่ตัวใหญ่กว่า โดยไม่เกรงกลัวอันตราย
17) เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ
18) เป็นสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่งและปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าของได้เป็นอย่างดี
19) ชอบทำตัวให้เป็นที่รักแก่ทุก ๆ คนที่ได้พบเห็น เช่น แสดงลีลาท่าทาง ด้วยสายตา ด้วยน้ำเสียง ให้เป็นที่ชื่นชมและเกิดความประทับใจ


สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่รู้จิตรู้ใจคนที่เป็นเจ้าของ รู้แม้กระทั่งว่า คนมีความรู้สึกอย่างไร หรือมีอารมณ์อย่างไร สามารถ  เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ได้อย่างน่าประหลาดใจ ทำให้ผู้ที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ปอมฯ ต่างติดใจในลักษณะนิสัยที่เป็นบุคลิกเฉพาะตัวของสุนัขพันธุ์ปอมฯ อย่างหลงใหล หากใครได้สัมผัสและรู้จักสุนัขพันธุ์ปอมฯ แล้ว ต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสุนัขที่น่ารักและมีเสน่ห์ รู้สึกมีความสุขที่สุดที่ได้มีโอกาสเลี้ยงและดูแลสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนจริง ๆ นะคะ


แหล่งข้อมูลที่มา  พี่อ๋อย  http://www.oilspomeranians.com
เครดิตภาพ  http://www.findmemes.com/pomeranian-puppies-for-sale-in-bc-canada

Sunday, April 28, 2013

แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย สุนัข แสนซน


        ใครที่ชื่นชอบเจ้าตูบพันธุ์เล็กล่ะก็ ตามมาทางนี้เลย เพราะวันนี้เรามีเจ้าตูบตัวจ้อย ฉลาด น่ารัก แต่แอบซนสุดๆ มาแนะนำกัน นั่นคือ สุนัข พันธุ์แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย (Jack Russell Terrier) นั่นเอง

          แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย (Jack Russell Terrier) สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาเมื่อราวปี ค.ศ. 1814 โดยศาสนจารย์ แจ๊ค รัสเซลล์ ผู้ชื่นชอบการไล่ล่าสุนัขจิ้งจอก เขาต้องการสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียร์ขนาดเล็กที่จะใช้ไล่ล่าสุนัขจิ้งจอก จนกระทั่งได้สุนัขเทอร์เรียเพศเมียมาตัวหนึ่งชื่อ "ทรัมพ์" จากคนส่งนม ศาสนจารย์ แจ๊ค รัสเซลล์ จึงใช้ทรัพพ์เป็นพื้นฐานจนเพาะพันธุ์ได้เป็น แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย ขึ้นมาในที่สุด

          ทั้งนี้ ในยุคแรกๆ สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย มีความสูงเฉลี่ย 35 เซนติเมตร แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้มีการพัฒนาสายพันธุ์จนได้ สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย ที่มีขนาดเล็กลง และมี 2 สายพันธุ์ คือ พาร์สัน แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย และ แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย  


ลักษณะทั่วไป สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย  

        สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย มีลักษณะขน 3 ประเภทคือ ขนเรียบ ขนแตก และขนหยาบ ลักษณะที่ดีของ สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย คือควรจะมีกะโหลกโต หูต้องเป็นรูปตัว V และตกไปทางด้านหน้า จมูกและริมฝีปากต้องมีสีดำ ตาควรเป็นสีน้ำตาลเข้มรูปถั่วอัลมอนด์ แฝงด้วยแววตาขี้เล่นและขี้สงสัย ขาต้องตรงและมีกล้ามเนื้อที่ต้นขา หางต้องสั้นและชี้ขึ้น

          อย่างไรก็ตาม ขนของสุนัข แจ็ครัสเซล ควรจะมีสีขาวตั้งแต่ 51% หรือมากกว่าขึ้นไปในร่างกาย และมีมาร์คกิ้งเป็นสีน้ำตาลหรือดำ หรือทั้งน้ำตาลและดำ หรือเรียกว่า "TRI COLOURED MARKING" ซึ่ง สุนัข แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย ส่วนใหญ่จะพบที่บนใบหน้า รอบตา หู ที่ก้นถึงหางและเล็กน้อยบนลำตัว

ลักษณะนิสัย แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย

          สุนัขพันธุ์นี้สามารถมีชีวิตได้นานถึง 14 ปี แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรียร์ เป็นนักล่าตัวเล็กๆ ที่ยอดเยี่ยม พวกเขาเป็นสุนัขที่ฉลาด ซึ่งเห็นได้ชัดจากการที่เขาเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสนามแข่งขัน โดยในอดีต แจ๊ค รัสเซล จะไล่ล่าไปตั้งแต่สุนัขจิ้งจอกจนถึงหนูตัวเล็กๆ พวกเขาจะใช้เวลาในการสำรวจพื้นที่ก่อนจะทำการไล่ล่า เพื่อความแม่นยำ

          นอกจากนี้ สุนัข แจ๊ครัสเซล ยังเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ เหมาะเป็นทั้งสุนัขที่เลี้ยงในบ้าน และก็สามารถพาออกไปนอกบ้านได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติความอยากรู้อยากเห็นจนถึงขั้นซนของ แจ็ค รัสเซลล์ ทำให้ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องให้เขาอยู่ในสถานที่ที่ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิด เป็นอย่างดี 


เรื่องควรรู้ก่อนคิดเลี้ยง สุนัข แจ๊ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย 

          1.  แจ๊ค รัสเซล เป็นสุนัขตื่นตัวตลอดเวลา มันควรได้รับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรอยู่ในความควบคุมดูแลและควรได้รับการฝึกสอนจากเจ้าของ หรือฝึก

          2.  แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลและเวลาจากเจ้าของอย่างมาก เนื่องจากเป็นสุนัขที่ชอบเข้าสังคมและขี้เล่น

          3.  ผู้เลี้ยง สุนัข พันธุ์แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย ควรจัดระบบการเลี้ยงให้ถูกต้อง เช่นต้องมีรั้วรอบขอบชิด เพราะ สามารถกระโดดได้สูงมาก รวมถึงปีนป่าย แม้กระทั่งขุดรูเพื่อหนีเที่ยวถ้ามันรู้สึกเบื่อหรืออยากหาอะไรสนุกตื่นเต้น ทำ

          4.  เพื่อความปลอดภัยของ สุนัข ผู้เลี้ยง แจ๊ครัสเซลล์ ควรจะใช้สายจูงตลอดเวลาที่พาไปเดินเล่น เนื่องจาก แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่มีความรวดเร็วและคล่องตัวสูงมาก 


แหล่งที่มา  http://pet.kapook.com
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/529454499943451150/?nic=1



Saturday, April 27, 2013

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับน้องหมา



1. สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงของคนมาตั้งแต่ 15,000 ปีที่แล้ว และมันก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นเพื่อนซี้ของคนมานานแล้วเช่นกัน

2. สุนัขเป็นตัวตรวจจับมะเร็ง เบาหวาน และลมบ้าหมูได้เป็นอย่างดี เพราะจมูกที่สุดแสนจะอัจฉริยะของมัน ทำให้ปัจจุบัน สุนัขหลายตัวถูกนำมาฝึกเพื่อดมกลิ่นมะเร็งปอด หน้าอก ผิวหนัง และต่อมลูกหมากโดยเฉพาะ

3. สุนัขสามารถรู้อะไรได้เทียบเท่ากับเด็ก 2 ขวบ โดยจากงานวิจัยพบว่า สุนัขเข้าใจคำพูดคนถึง 200 คำ

4. สุนัขพันธุ์ที่ฉลาดที่สุด ได้แก่ พุดเดิ้ล เยอรมันเชพเพิร์ด โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ และโดเบอร์แมน

5. รูปทรงของใบหน้าสุนัขสามารถบอกได้ว่ามันมีอายุยืนยาวแค่ไหน โดยสุนัขที่มีหน้าเรียวแหลม และยาว มีแนวโน้มจะมีอายุยืนกว่าสุนัขที่มีหน้าสั้น บู้บี้
  
6. ชายผู้เลี้ยงสุนัขมากที่สุดในโลก คือนายคิวบลา คาน ผู้มีสุนัขมาสทิฟส์ในอาณัติกว่า 5,000 ตัว

7. ชื่อสุนัขตัวผู้ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในต่างประเทศ คือ แม็กซ์ และเจค ส่วนชื่อสุนัขตัวเมียนั้น คือ แม็คกี้ และมอลลี่

8. ลูกสุนัขแรกเกิดจะตาบอด หูหนวก และไม่มีฟันสักซี่

9. สุนัขมักจะเข้าใจว่า เวลาคนยิ้มแย้มนั้น พวกเขากำลังแยกเขี้ยว ซึ่งเป็นพฤติกรรมของการบุกรุก

10. โลกใบนี้มีประชากรสุนัขราว 400 ล้านตัว
  
11. ลายจมูกของสุนัขแต่ละตัวนั้น จะไม่มีทางซ้ำกันเลย เปรียบเสมือนกับลายนิ้วมือของคนนั่นเอง

12. แม่สุนัขใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 2 เดือน จึงให้กำเนิดลูกสุนัข

13. สุนัขที่โตเต็มที่ มีฟันทั้งหมด 42 ซี่

14. อเมริกาเป็นประเทศที่มีประชากรสุนัขมากที่สุดในโลก โดยชาวอเมริกันที่เลี้ยงสุนัข มีมากถึง 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรในประเทศเลยทีเดียว

15. 94% ของเจ้าของสุนัข ยอมรับว่าสุนัขในอาณัติทำให้พวกเขายิ้มได้มากกว่าวันละ 1 ครั้ง
16. สุนัขเป็นสัตว์ชนิดแรกที่มนุษย์นำมาฝึกให้เชื่อง

17. สุนัขไม่ชอบเสียงฝนตก เพราะรบกวนโสตประสาทที่ไวต่อเสียงของมันมาก

18. สุนัขพันธุ์บาเซ็นจิ เป็นสุนัขพันธุ์เดียวในโลกที่ไม่เห่า ทำได้แค่ส่งเสียงคำรามสั้น ๆ ในลำคอเท่านั้น

19. สุนัขตัวเล็กมีแนวโน้มอายุยืนกว่าสุนัขตัวใหญ่ โดยสามารถมีอายุได้ถึง 16 ปีหรือมากกว่านั้น ขณะที่สุนัขตัวใหญ่ ๆ จะมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 8-15 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ดี มีสุนัขตัวใหญ่ที่อายุยืนกว่าอายุขัยเฉลี่ยถมเถไป

20. สุนัขที่อายุยืนที่สุดที่กินเนสส์บุ๊กบันทึกไว้ คือเจ้าบลูอี้ สุนัขพันธุ์ออสเตรเลียน แคตเทิล ซึ่งมีอายุยืนถึง 29 ปี

  
โดย :  จิ้มจุ่ม, http://variety.teenee.com
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/322851867015312295/

Friday, April 26, 2013

ลักษณะหน้าของสุนัขพันธุ์บางแก้ว




แบบหน้าหมาบางแก้วแบ่งได้ 3 ลักษณะด้วยกันคือ 

ลักษณะหน้าเสือ
 
ลักษณะใบหน้าดูคล้ายเสือ มีกะโหลกศีรษะใหญ่ หน้าผากกว้าง หูเล็กแบะออกเล็กน้อย แววตา เซื่องซึม และดูดุร้าย เป็นลักษณะของหมาพันธุ์บางแก้วที่ใหญ่ที่สุด บางตัวที่เคยเห็นมาแล้วมีขนาดเท่ากับ สุนักพันธุ์อัลเซเชี่ยนของต่างประเทศ มีขนที่คอเป็นแผง แต่ไม่รอบคอ ไม่มีเคราใต้คาง รูปร่างอาจใหญ่ หรือขนาดกลางก็ได้ มีหางเป็นพวงและมีเป็นพวง ทั้งหางงอและหางม้วน ขนมีทั้งฟูและไม่ฟู มีแผงคอแต่ไม่รอบคอ
ลักษณะหน้าเสือถือว่าเป็นเอกลักษณะของหมาบางแก้วอย่างแท้จริง

ลักษณะหน้าสิงห์โต
 
ถ้าหากได้เลือดสุนัขจิ้งจอกมากจะมีลักษณะหน้าแหลม ขนบริเวณแก้มจะพองออกมาเป็นแผงหรือกระบังหน้าคล้ายคลึงกับหน้าสิงห์โต ลักษณะจะมีแผงใหญ่รอบคอ และมีเคราใต้คางยาวลามไปจรดแผงคอตอนล่าง กะโหลกศีรษะเล็ก หูเล็กตั้งตรงรับกับใบหน้าอย่างสวยงาม เมื่อเรามองจากด้านหน้าจะมีลักษณะคล้ายสิงห์โต ปากไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ช่วงตัวตอนหน้าใหญ่ ช่วงท้ายเล็ก ยามปกติแววตาและ ท่าทางจะเซื่องซึม แต่เมื่อเห็นศัตรูหรือคนแปลกหน้า แววตาและท่าทางจะเปลี่ยนเป็นดุร้ายและคล่องแคล่วว่องไวทันที ลักษณะเท้ายาวอูม ขนยาวหุ้มปลายเท้านิดหน่อย มองดูคล้ายเท้าหมี ขนมีทั้งยาวฟู สั้นฟู หางยาวเป็นพวงและไม่เป็นพวง มีทั้งหางม้วนสูงและม้วนต่ำ ลักษณะนี้นับว่าเป็นพันธุ์ดั้งเดิม ถ้ามีแผงคอใหญ่ หูสั้นและหางพวง และมีสีที่ประน้อยมากแล้ว ก็นับว่ามีสายเลือดที่ยังเข้มข้น น่าเก็บเอาไว้ทำพันธุ์ แต่ก็หายากมาก หลายปีจึงจะมีออกมาสักครั้ง มีการซื้อขายกันในราคาที่แพงพอดู

ลักษณะหน้าจิ้งจอก
 
มีใบหน้าแหลม หูใหญ่กว่าทั้งสองชนิดแรก ใบหูไม่ตรงโย้ออกด้านข้าง มองดูเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ขนอ่อนยาวเรียบ ขนหางเป็นพวง รูปร่างมีทั้งใหญ่ กลาง และเล็ก นิสัยไม่ค่อยดุร้ายเหมือนสองพวกแรก ซึ่งถือว่าหน้าจิ้งจอกเป็นข้อด้อยกว่า 2 พวกแรก 

อย่างไรก็ตาม ลักษณะเด่นของหน้าหมาบางแก้วคือที่ปลายปากจะมีสีขาวรอบปาก และสีขาวจากปลายปากมากลางแสกหน้าถึงกะโหลกศีรษะที่เรียกกันว่า "หน้าแบ่ง" หรือ "หน้าแด่น" "ปากคาบแก้ว" 



แหล่งที่มา งานเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ 
                    มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม พิษณุโลก


Thursday, April 25, 2013

การฝึกนิสัยและสังเกตพฤติกรรมสุนัข


สุนัขเป็นสัตว์ที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์หรือสุนัขอื่นๆ ผ่านการแสดงอากัปกิริยาต่างๆ นั่นรวมไปถึง การแสดงสีหน้าหลายๆแบบ การทำท่าหลายๆ อย่าง เช่นการส่งเสียง หรือวิธีการดมกลิ่นรับรู้ภาษามนุษย์ได้ สามารถฝึกสุนัขให้สื่อสารกับมนุษย์ได้ ช่วยงานมนุษย์ในด้านต่างๆมากมาย เช่น สุนัขตำรวจ สุนัขทหาร สุนัขนำทางคนตาบอด เป็นต้น

การแสดงความเป็นใหญ่มีพละกำลังมากกว่าเหนือคู่ต่อสู้
สุนัข จะยืนตัวตรงคอตั้ง ขาเหยียดตรง หางและหูตั้งขึ้น ทำอกตั้ง ขนรอบคอชูชัน และเป็นแนวยาวตลอดสันหลัง โบกหางไปมาอย่างช้าๆ พร้อมขู่คำราม ในทางกลับกันสุนัขตัวที่กำลังยอมแพ้ (หรือยอมจำนนต่อตัวที่เก่งกว่า) จะแสดงท่าว่า ข้านี้ตัวกระจ้อยร่อย หมดน้ำยาเหมือนลูกสุนัขตัวเล็กๆ และอาจจะนอนหงายท้อง หูรี่ ไม่สู้แต่อย่างไร พอถึงตรงนี้ต้องขออธิบายกันก่อนว่า สุนัขตัวโตมักจะสั่งสอนหรือดุลูกสุนัขตัวเล็กๆ แต่เขาจะไม่ทำร้ายเจ้าตัวน้อยอย่างแน่นอน

     การแสดงการยอมแพ้
     สุนัขตัวที่ยอมแพ้ว่าอีกตัวนั้นเก่งกว่าหรือเหนือกว่า หรือยอมรับและเกรงกลัวคนผู้เป็นเจ้าของ จะแสดงอาการยำเกรง   
     ด้วยการเข้าไปหาสุนัขตัวที่เหนือกว่าหรือเจ้าของ ทางด้านข้าง โดยหมอบคลานเตี้ยติดพื้น หางตกแต่แกว่งไปมา นอก
    จากนี้ คุณยังจะพบอีกว่าเค้าจะชอบเลียมือเลียไม้ เลียเท้าหรืออาจเลยไปถึงหน้า ของผู้เป็นเจ้าของ หรือสุนัขตัวที่เหนือ  
     กว่า ถ้ามันทำได้ แต่ถ้าเขายังเห็นว่าที่แสดงออกมานี้ยังแสดงอาการเอาใจได้ไม่มากพอ พวกเค้าอาจจะเพิ่มอาการให้มาก
    ขึ้นไปอีก โดยลงไป กลิ้งหงายท้อง ซึ่งบางตัวอาจจะมีฉี่ออกมาด้วย

     การแสดงความดีใจหรือเป็นมิตร
    สุนัข จะกะดิกหาง หรือแกว่งหาง อย่างแรงจนก้นสบัดเป็นการแสดงอาการยินดีและความเป็นมิตร และลูกฝูงก็จะทำอา
    กับกริยาดีใจเช่นนี้เหมือนกันต่อฝูง

    การแสดงอาการโกรธ
   สุนัขที่แสดงว่ากำลังโกรธ จะขู่คำราม แยกเขี้ยว  หางที่โบกอย่างช้าๆเกร็งๆ อยู่ในระดับเดียวกับ หลังของสุนัข

การแสดงอาการกลัว
สุนัขที่แสดงอาการกลัว มีความกังวลใจ กลุ้มใจ จะทำส่วนหางที่ห้อยตกอยู่ระหว่างก้นของสุนัข หรือแกว่งอย่างเกร็งๆตกอยู่ระหว่างก้น

สุนัขที่ทำหูตั้ง
สุนัข ที่กำลังทำหูตั้ง ตัวตรง แสดงว่ากำลังอยู่ในอาการที่เตรียมพร้อม ที่จะทำอะไร บางอย่าง หรือฟังเสียงอย่างตั้งอกตั้งใจอย่างเฝ้าระวังตลอดเวลา

สุนัขที่ทำหูลู่หรือตก
สุนัขที่กำลังทำหูลู่หรือตกไปข้างหลังเสมอกับแนวศรีษะ ก็จะบ่งบอกถึงว่า สุนัขกำลังดีใจ ยอมแพ้ หรือกลัว

สุนัขที่ทำตาหรี่
สุนัขที่กำลังทำตาหรี่แปลความหมายได้สองอย่าง คือถ้าไม่ได้กำลังมีความสุข ก็แสดงว่ากำลังยอมแพ้ 

สุนัขที่ทำตาเบิกกว้างและลุกโพลง
สุนัขที่ทำตาโตเบิกกว้างและลุกโพลงแสดงว่าสุนัขกำลังจะแสดงอาการก้าวร้าวหรือ กำลังเริ่มโมโห เหมือนอย่างเช่นในฝูงสัตว์ป่า หัวหน้าฝูงแสดงอาการเช่นนี้เพื่อควบคุมและดูแลบรรดาลูกฝูงที่ไม่เชื่อฟัง โดยการจ้อง ทั้งสอง ฝ่ายจะจ้องตากันจนกว่าจะมีฝ่ายใดเข้าท้าทายหรือมีฝ่ายใดก้มหัว ฝ่ายที่ยอมแพ้ก็จะลดหัวของตนให้ก้มต่ำลงแล้วหันกลับออกไป อย่างไรก็ดี หากการประจันหน้าของสุนัขที่เหนือกว่าและตัวที่ด้อยกว่ายังคงดำเนินอยู่ต่อ ไป แม้ว่าสุนัขตัวที่ด้อยกว่าจะหลีกทาง ไปแล้ว สุนัขที่ด้อยกว่านั้นอาจจะรู้สึกสับสนและแว้งกัดออกไปเพื่อเอาชนะความกลัวก็ ได้ และหากการทำสงครามทางสายตานี้ ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด สุนัขตัวที่เหนือกว่าก็จะเข้าคุกคามและสั่งสอนอีกตัวด้วยการแยกเขี้ยวคำราม ขู่ หรือตรงเข้ากัดทันที

การจ้องตาสุนัข
    สุนัขที่จ้องตากับสุนัข หรือสุนัขกับคน มีสองอย่างคือจ้องตากันแบบแสดงความรักความอบอุ่นต่อกัน หรือจ้องตาท้าทาย
    เพื่อการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมแพ้  คุณไม่ควรจ้องตากับสุนัขที่กำลังหงุดหงิดหรือ
    โมโห เพราะจะเป็นการยั่วยุให้สุนัข เริ่มตรงเข้าทำร้ายคุณ

    สุนัขที่ว่าง่ายและสุนัขบางสายพันธุ์ที่เห็นชัดๆ อย่างเช่น ลาบราดอร์ ซึ่งเป็นสุนัขที่ทำหน้าเหมือนยิ้ม เวลาอ้าปาก เราจะ
    เห็นฟันใต้กระพุ้งปากยานๆเผยอๆของเค้า อันนี้ดูเป็นมิตรดี แต่ในยามที่เค้าโมโห ปากของสุนัขลาบราดอร์ จะหุบเข้า 
    เผยให้เห็นฟันขาวแวววาวทุกซี่ ซึ่งคุณจะได้ยินเสียงเค้าขู่ตามมา สำหรับสุนัขที่แสดงอาการอยากจะเล่น อาจจะแสดง
    พฤติกรรม ด้วยการเหยียดอุ้งเท้าตุ้มน้อยๆออกมาหา หรือชวนคุณเล่นผ้า และเค้าก็จะชอบเห่าเพื่อดึงดูดความสนใจ 
    ส่วนกิริยาท่าทางอื่นๆ ของสุนัขที่สามารถสังเกตได้ก็อย่างเช่นชวนคุณเล่นของเล่น หรือไล่งับเพื่อนๆของเค้าเพื่อชวน
    ให้เล่นวิ่งไล่กัน


เราต้องเป็นเจ้านาย
     สุนัขเมื่อเข้าวัยหนุ่มสาวอายุได้ประมาณ 6 เดือน  สุนัขเริ่มเป็นตัวของตัวเอง ไม่ทำตามคำสั่งที่เราเคยสอนให้ปฏิบัติ 
     ตามอย่างคำสั่ง เช่น นั่ง” , “หมอบหรือ มานี่ใน ช่วงนี้ สุนัขจะทดสอบสามารถของเจ้านาย ถ้าอ่อนแอหรือเขาแข็ง
     แรงและมีพละกำลังมากกว่า สุนัขจะคิดว่าเขาจะเป็นผู้นำ แทนเราได้หรือไม่ ดังนั้นคุณมีหน้าที่ที่จะต้องสอน และ
     ฝึกฝน วินัยให้เขาและทำให้เค้ารู้ให้ได้ว่าสถานะของเค้านั้นอยู่ตรงไหน และแม้ว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่แล้ว คุณก็
     ควรจะฝึกวินัย ให้กับเขาเป็นระยะๆ และอย่าลืมว่าการชมเชยเป็นสิ่งสำคัญมากๆ(สุนัขทุกตัวชอบเหมือนกันหมด)

     เมื่อสุนัขแสดงความเป็นใหญ่เหมือนเป็นจ่าฝูง ให้คุณรีบกำจัดความอหังการของเค้าลงไปเช่นการที่ลูกสุนัขแสดงท่า
     ทาง หวงกระดูก หรือของกินกับคุณ อย่าปล่อยให้เขาทำพฤติกรรมนี้กับคุณ หากปล่อยเนิ่นนานไปมันอาจจะสายเกิน
     แก้  พฤติกรรมของเขาหรืออาจกลายเป็นอันตรายหากสุนัขของคุณ ตัวโตจนคุณไม่สามารถบังคับได้  วิธี แก้ไข เวลาที่
     เค้ากำลังกิน อาหารให้ดึงชามข้าวเค้าออกมาบ้าง สุนัขควรยินยอมคุณแต่โดยดี หากเค้าแยกเขี้ยวคำราม หรืออยากจะกัด
     เรา คุณต้องกำราบเขา

 
แหล่งที่มา  expert2you, https://sites.google.com
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/556757572658953229/