"ลูกสุนัขใน วันนี้ คือสุนัขโตในวันข้างหน้า" ก่อนอื่นต้องขอเกาะกระแสวันเด็กแห่งชาติของเดือนมกราคมกัน
สักนิด เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีเจ้าของมาปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกสุนัข
กันเยอะ ไม่ว่าจะเป็นอาการขี้กลัวมากเกินไป อาการตื่นเต้นเกินกว่าเหตุ หรือความก้าวร้าวของลูกสุนัข
ตามที่จั่วหัวไว้ครับ ลูกสุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรมตั้งแต่เล็ก ๆ จะส่งผลไปถึงพฤติกรรมตอนโตจนอาจสร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของหลายๆ
คนได้ มาเรียนรู้กันดีกว่าครับ ว่าในฐานะเจ้าของ เรามีวิธีรับมือกับปัญหาพฤติกรรมในลูกสุนัขอย่างไร
ลูกสุนัขขี้กลัว
ลูกสุนัขขี้กลัว
เกิดจากหลายสาเหตุครับ ถ้ามีอาการตื่นกลัวตื่นแต่อายุก่อน 8 สัปดาห์
เป็นไปได้ว่าจะเป็นผลจากพันธุกรรม เพราะเหตุการณ์ที่ทำให้กลัวหากเกิดขึ้นก่อนช่วงอายุ
ดังกล่าว ลูกสุนัขจะจำไม่ได้และไม่มีผลต่อพฤติกรรมเมื่อโตขึ้น ลูกสุนัขบางตัวที่มีพันธุกรรมขี้กลัวหากอาการไม่แสดงออกในช่วงเด็ก
อาจแสดงให้เห็นในช่วงอายุ 6 ถึง 18 เดือน
ส่วนความกลัวที่เป็นผลมาจากประสบการณ์ เจ้าของสามารถป้องกันได้โดยการฝึกดังนี้ครับ
1. การเรียนรู้การเข้าสังคม
ลูกสุนัขเริ่มเรียนรู้การเข้าสังคมในช่วงอายุ
4 ถึง 14 สัปดาห์
จำเป็นที่เจ้าของจะต้องแนะนำให้สุนัขรู้จักคนหลากหลายช่วงอายุ ทั้งเพศหญิงและชาย
รวมถึงสัตว์เลี้ยงตัวอื่นให้มากที่สุด เพื่อให้ลูกสุนัขรู้สึกคุ้นเคยและไม่ตื่นกลัว
กรณีที่ลูกสุนัขยังไม่เคยทำวัคซีนควรเริ่มจากไปบ้านเพื่อนที่ไม่มีสุนัข หรือเลี้ยงสุนัข
แต่เลี้ยงไว้ในบ้านไม่ได้ปล่อยไปไหน เพื่อลดโอกาสที่ลูกสุนัขของเราจะติดโรค ส่งขนมให้เพื่อนของเราเพื่อยื่นให้ลูกสุนัขกินในกรณีที่ลูกสุนัขฝึกนั่งได้
แล้ว ให้เพื่อนของเราสั่งให้ลูกสุนัขนั่งก่อนที่จะให้ขนม ลูกสุนัขจะมีความรู้สึกดีกับการเจอคนใหม่ๆ
ไม่ตื่นกลัวเวลามีคนยื่นมือเข้าไปหา การสั่งให้นั่งก่อนให้ขนมจะช่วยลดพฤติกรรมที่ลูกสุนัขกระโจนใส่คนแปลกหน้า
ได้ เมื่อลูกสุนัขทำวัคซีนมากขึ้นและมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ดีขึ้นควรขอคำแนะนำ จากสัตวแพทย์
เพื่อนำลูกสุนัขไปเรียนรู้การเข้าสังคมในที่สาธารณะซึ่งมีคนพลุกพล่านมาก ยิ่งขึ้น
2. การฝึกให้เกิดความเคยชินกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว
กลิ่นเสียงหรือประสบการณ์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของลูกสุนัขต้องมีการฝึก
ให้เกิดความเคยชิน เช่น เสียงเครื่องเป่าผม เครื่องดูดฝุ่น หรือประสบการณ์ในการนั่งรถ
การฝึกง่ายๆ เช่น การให้ลูกสุนัขกินขนมขณะที่เจ้าของเปิดเครื่องเป่าผม จะช่วยให้ลูกสุนัขเคยชินและไม่กลัวเสียงดังเวลาที่ได้ยินเสียงในชีวิตประจำ
วัน หรือการฝึกให้ลูกสุนัขเคยชินกับการอาบน้ำ แปรงขนและตัดเล็บ ให้เริ่มจากสิ่งที่ลูกสุนัขเครียดน้อยที่สุด
และทำด้วยความนุ่นนวลมากที่สุด เช่น แปรงขนเบาๆ ที่ตัว ถ้าลูกสุนัขยัง
ดูสงบอยู่ให้เจ้าของให้ขนมและคำชม ลูกสุนัขจะเรียนรู้ที่จะสงบ และคอยเพื่อรอรับขนม
ค่อยๆ เพิ่มการจัดการที่มากขึ้น เช่น เริ่มขยับไปแปรงขนที่หูหรือหน้า ลูกสุนัขจะไม่ได้ขนมถ้าแสดงอาการกลัวหรือเครียดออกมา
แต่ให้เจ้าของลดระดับการแปรงชนให้เบาลงจนลูกสุนักลับมาสงบอีกครั้งจึงให้ขนม
อาการตื่นเต้นตื่นตัวมากผิดปกติหรือพฤติกรรมไม่สุภาพ
ธรรมชาติของสุนัขบางสายพันธุ์
เช่น แจ๊ค รัสเซลล์หรือลูกสุนัขส่วนใหญ่มักจะมีนิสัยที่ตื่นตัวมากกว่าในสุนัขโต แต่หลายๆ
ครั้งพฤติกรรมนี้เกิดบ่อยขึ้นเพราะเจ้าของไปส่งเสริมพฤติกรรมโดยไม่ตั้งใจ เช่น
ในขณะที่ลูกสุนัขแสดงอาการตื่นเต้นหรือคึกผิดปกติ เจ้าของให้ความสนใจลูกสุนัขมากขึ้น
ทำให้ลูกสุนัขเรียนรู้ที่จะแสดงอาการดังกล่าวมากขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจ แนวทางแก้ไขง่ายๆ
คือ อย่าให้ความสนใจเวลาที่ลูกสุนัขตื่นเต้น ให้เจ้าของทำเป็นเฉยๆ
ไม่สนใจลูกสุนัขจนกว่าลูกสุนัขจะกลับมาสงบ การพาลูกสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้านอย่างน้อยวันละ
2 เวลา จะช่วยกระตุ้นทางด้านอารมณ์และจิตใจของลูกสุนัข ซึ่งช่วยลดความตื่นตัวทางด้านพฤติกรรมให้ลดน้อยลงได้ที่สำคัญคือการฝึกคำ
สั่งนั่งและคอย (ดูวิธีการฝึกทาง www.petmanner.com) ต้องให้ลูกสุนัขเรียนรู้ว่าก่อนที่เจ้าของจะให้อาหารก่อนที่จะได้ของเล่น
ก่อนที่เจ้าของจะเล่นด้วยทุกครั้ง ลูกสุนัขต้องทำตามคำสั่งนั่งก่อน ไม่ใช่กระโจนเข้าหาหรือพันแข็งพันขา
เพื่อจะเอาของ และให้ลูกสุนัขทำตามคำสั่งคอยในเวลาที่คุณเปิดปิดประตูบ้าน
หรือมีแขกมาบ้าน
ปัญหาความก้าวร้าว
ความก้าว
ร้าวในลูกสุนัขที่อายุน้อยกว่า 4 เดือน ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความกลัวและความกังวลเป็นพื้นฐาน เช่น ลูกสุนัขที่มีพฤติกรรมหวงอาหารจะขู่เพราะกลัวว่าจะมีคนมาแย่งอาหารไป
ทันทีที่การขู่ได้ผลและเจ้าของถอยออกไป ระดับความเครียดที่เกิดขึ้นจะลดลง ลูกสุนัขจะเกิดความมั่นใจที่จะแสดงพฤติกรรมการขู่มากขึ้น
และในบางครั้งอาจนำไปสู่ปัญหาความก้าวร้าวที่แท้จริงได้ สำหรับความก้าวร้าวที่เกี่ยวข้องกับการหวงอาหารสามารถป้องกันได้โดยการฝึก
ให้ลูกสุนัขเคยชินกับการกินอาหารเวลาที่มีคนอยู่ใกล้ เจ้าของอาจนั่งอยู่ที่พื้นข้างๆ
ตัวสุนัข เอาชามอาหารวางไว้บนตักแล้วค่อยๆ หย่อนอาหารลงไปในชามทีละน้อย
ให้ลูกสุนัขกินในขณะที่มืออีกข้างอาจลูบยาวๆ และช้าๆ
ไปที่ตัวลูกสุนัขด้วยเพื่อให้ลูกสุนัขสงบ กรณีที่มีแขกมาบ้านในระหว่างมื้ออาหารของลูกสุนัข
อาจให้ช่วยเดินผ่านชามอาหารลูกสุนัขขณะที่กำลังกิน แล้วหย่อนอาหารเปียกลงไปในชามให้ลูกสุนัขเล็กน้อยเพื่อให้ลูกสุนัขรู้สึกดี
เวลาที่มีคนเดินผ่านในขณะที่กินอาหาร
ความเชื่อผิด ๆ คือ เจ้าของบางคนเชื่อว่าควรยกชามอาหารเข้า
ๆ ออก ๆ ในขณะที่สุนัขกินเพื่อให้ลูกสุนัขรู้ว่าเจ้าของสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง แต่นั่นเท่ากับเพิ่มความเครียดให้ลูกสุนัข
และอาจจะยิ่งทำให้ก้าวร้าวมากขึ้น ในกรณีที่มีเหตุผลต้องเอาชามอาหารออกมาเก็บในขณะที่ลูกสุนัขเฝ้าอยู่
ให้เอาขนมไปแลกเพื่อให้ลูกสุนัขรู้สึกดีกับการเก็บชามอาหาร
ปัญหาลูกสุนัขหวงของมีหลักการป้องกันที่คล้าย
ๆ กัน คือ ให้เอาขนมไปแลกกับของเล่นที่ลูกสุนัขกำลังคาบอยู่ในปากโดยเอาขนมไปจ่อไว้
ใกล้ๆ จมูก ออกคำสั่งว่า "วางลง"หรือ "drop it" ทันทีที่ลูกสุนัขอ้าปากปล่อยของลงมา ให้เจ้าของให้ขนมลูกสุนัขกินทันที เก็บของเล่นไว้ในมือ
รอจนลูกสุนัขกินเสร็จ เมื่อลูกสุนัขหันกลับมาสนใจของเล่นให้ออกคำสั่งว่านั่ง เมื่อลูกสุนัขนั่งแล้วค่อยให้ของเล่นคืน
การฝึกในช่วงหลังจะไม่จำเป็นต้องใช้ขนมตลอดทุกครั้ง เพราะลูกสุนัขจะรู้สึกดีที่จะคืนของให้เอง
อีกคำสั่งที่ไว้ใช้แก้ปัญหาสุนัขหวงของ คือ "leave it" เริ่มจากให้ลูกสุนัขอยู่ในสายจูงในท่านั่งหรือหมอบ เอาของเล่นที่ลูกสุนัขหวงวางไว้ข้างหน้าห่างออกไป
2 ฟุต ให้เจ้าของใช้ขนมดึงดูดความสนใจลูกสุนัขแทน โดยล่อบริเวณจมูกให้มองที่ขนมแทนมองของเล่นที่อยู่ตรงหน้า
ออกคำสั่งว่า "ออกมา" หรือ "leave it)
จากนั้นให้เจ้าของถอยหลัง 1 ก้าว เมื่อลูกสุนัขหันหลังและลุกเดินตามมา
ให้เจ้าของให้ขนมเป็นรางวัลทันที กรณีที่ลูกสุนัขไม่หันมาแต่เดินตรงไปหาของให้รั้งสายจูงเบาๆ
แล้วพยายามใช้ขนมล่อให้หันกลับมา เมื่อลูกสุนัขทำตามคำสั่งได้ดี ต่อไปไม่ต้องเอาขนมไปล่อตรงหน้า
แต่ช่วงแรกยังต้องให้รางวัลทุกครั้งที่ลูกสุนัขหันกลับมาตามคำสั่ง ในตอนหลังอาจให้บ้างไม่ให้บ้าง
หรือเมื่อลูกสุนัขพร้อมอาจลองฝึกแบบปล่อยสายจูง
ความก้าวร้าว ประเภทอื่น ๆ จะมีวิธีการแก้ไขและป้องกันที่แตกต่างกันออกไป
แต่ที่สำคัญ คือ อย่าแก้ไขปัญหาความก้าวร้าวด้วยความรุนแรง การลงโทษสุนัข นอกจากจะไม่ช่วยอะไรในการแก้ปัญหาแล้ว
ยังมักจะทำให้สัมพันธภาพระหว่างคุณกับลูกสุนัขแย่ลงกว่าเดิม เพราะปัญหาพฤติกรรมต้องแก้ไขด้วยความรักและความเข้าใจจากเจ้าของครับ
เรื่องโดย
: น.สพ.กมล ภาคย์ประเสริฐ
http://pet.kapook.com/view37450.html, Dogazine Healthy
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/explore/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89/
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/explore/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89/
No comments:
Post a Comment