สุนัขนับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงและเพื่อนของมนุษย์มาช้านาน แต่กระนั้นการเลี้ยงสุนัขแต่ละตัวก็ถือว่าเป็นภาระสำหรับเจ้าของมาก แน่นอนสุนัขมันไม่ใช่เครื่องประดับสนามหญ้าหรือของตกแต่งครัวเรือน มันต้องกิน ขี้ บี้ นอนเหมือนกัน ทำให้เราจำเป็นต้องให้ความรักและเสียค่าใช้จ่ายจิปาทะมากมาย อีกทั้งเราต้องเสียเวลาพามันไปเดินเล่น พามันไปกินอาหาร จีบสาว ฯลฯ เรียกได้ว่าคุณต้องดูแลสุนัขของคุณยิ่งกว่าเมียของคุณเสียอีก
ดังนั้นรายการต่อไปนี้
เราจะเสนอสุนัข 10 สายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับคนขี้เกียจที่อยากเลี้ยงสุนัข
ที่เป็นสุนัขที่เสียค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูค่อนข้างต่ำ(แต่กระนั้นหลายคนยินดีจะ เสียค่าใช้จ่ายสูงๆ
เพื่อพวกมัน) และไม่ต้องการเอาใจใส่อะไรมาก อีกทั้งคุณสามารถนำพวกมันยังสามารถไปอวดเพื่อนบ้านของคุณได้สบาย(ปล.
ข้อมูลบทความนี้มีเนื้อหาแตกต่างจากข้อมูลในไทยมาก ดังนั้นขึ้นอยู่กับคุณที่พิจารณาว่าอันไหนจริงไม่จริง)
1. Chihuahua
ชิวาว่า จัดได้ว่าเป็นสุนัขพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุด
ในโลก ตั้งชื่อมาจากเมืองแห่งหนึ่งในประเทศเม็กซิโก(ผมก็นึกว่ามีถิ่นกำเนิดที่ ญี่ปุ่น)
ถูกค้นพบในปี 1850 และทำการเพาะพันธุ์จนได้สายพันธุ์สำหรับสัตว์เลี้ยงขึ้นมา
แน่นอนด้วยขนาดตัวที่เล็กสูงเพียง 6 นิ้ว หนัก 2-6 ปอนด์มันเลยเหมาะแก่การเลี้ยงห้องแคบๆ เหมาะสำหรับที่จะนำมาเลี้ยงในบ้านที่มีเนื้อที่จำกัดโดยเฉพาะบ้านในเมือง
ใหญ่ๆ อย่างยิ่ง และพวกผู้หญิงชอบมันใส่กระเป๋า นิสัยเป็นสุนัขที่เงียบ ร่าเริง
เฉลียวฉลาดมาก ฝึกสอนง่าย มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ และมันจะมีอัธยาศัยที่ดีกับสุนัขตัวอื่นๆในบ้าน
รวมแม้กระทั่งแมวหรือนกด้วย ยกเว้นเมื่อมันถูกรบกวนหรือทำให้มันตกใจ มันจะเห่า การดูแลรักษาการน้อย(ในกรณีพันธุ์ขนสั้น)
ส่วนการออกกำลังกายก็ต่ำเพราะสุนัขพันธุ์ชิวาวาถือเป็นสุนัขที่แกร่งและมี อายุที่ยืนยาว
แต่กระนั้นก็ไม่ควรปล่อยให้มีน้ำหนักมากเกินไปเพราะว่าจะเกิดปัญหาเรื่อง สุขภาพ
และให้ระวังปัญหาโลกพันธุกรรมอย่างโรคลมชัก โรคหัวใจหรือหลอดลมยุบ
2. Rat Terrier
เทอเรียพันธุ์หนู
สาเหตุที่เรียกชื่อแบบนี้เพราะจุดประสงค์ที่เพาะเลี้ยงมันก็คือเพื่อไล่หนู และล่าสัตว์
มีถิ่นกำเนิดในอเมริกา มักนิยมเลี้ยงในฟาร์มสุนัข ปัจจุบันกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก
นิสัยเป็นสุนัขที่ร่าเริง ไวต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง มิตรเข้ากันได้ดีกับทุกคน
แม้แต่คนแปลกหน้า เด็ก สุนัขพันธุ์อื่น แมว การดูแลรักษาก็ต่ำเพราะมันขนสั้น และการพาไปออกกำลังกายต่ำพาไปออกบางครั้งบางคราวได้
แต่พวกมันชอบนั่งเล่นบนโซฟาและชอบฉีกหรือข่วน นอกจากนี้ยังมีนิสัยชอบเรียนรู้สิ่งแปลกๆใหม่
ดังนั้นควรพามันไปเปิดหูเปิดตาด้วย
3. Puggle
ปั๊กเกิ้ล เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีส่วนผสมกับปั๊กและบีเกิ้ล
โดยจุดประสงค์คือ เน้นเพื่อความน่ารักน่ากอดและนำข้อดีของสุนัขสองสายพันธุ์มารวมกัน
ทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่เหมาะกับเจ้าของที่ไม่มีเวลาเลี้ยงได้เป็นอย่าง ดี ด้วยขนาดตัวที่พอเหมาะ(หนักประมาณ 15-30 ปอนด์ สูง
15)เหมาะพาร์เมนต์หรือในบ้าน เป็นสุนัขอารมณ์ดี และสุขภาพแข็งแรงทนทานต่อโรค
ร่าเริงขี้เล่น เข้ากันได้ดีกับเด็กและสุนัขและสัตว์อื่นๆ ในบ้าน อีกทั้งยังภักดีและกระตือรื้อร้นเพื่อให้เจ้าของรักใคร่มัน
นอกจากนี้มันยังไม่หอนหรือเห่าพร่ำเพรื่อ อย่างไรก็ตาม มีเห่าบ้างถ้ามีคนแปลกหน้าปรากฎตัวหน้าบ้าน นอกจากนี้ ยังเป็นสุนัขชอบมีกิจกรรมมากเหมือนกับบีเกิ้ล จึงไม่เหมาะที่จะทิ้งเขาไว้ตามลำพังหรือขังไว้ในกรงทั้งวันส่วนการวิ่งเล่น
ก็แค่บางครั้งบางคราวเนื่องจากมันมีจมูกสั้น(รับมาจากปั๊ก)ทำให้หายใจลำบาก และไวต่อความร้อน
แต่พวกมันแข็งแรงมาก แต่จมูกจะยาวกว่าปั๊กอย่างชัดเจน
จึงไม่มีปัญหาเรื่องระบบหายใจ ลูกนัยน์ตาไม่โปนใหญ่เหมือนปั๊ก ส่วนการดูแลรักษาให้ระวังฤดูใบไม้ผลิดวงตาจะหลั่งน้ำตามาก(เพราะมาจาก
ปั๊ก)และต้องดูแลรักษาความสะอาดรอยเหี่ยวย่นของมันด้วย
4. Bulldog
สุนัขพันธุ์บลูด็อก
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ ราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 สมัยก่อนนิยมใช้สุนัขชนิดนี้ต้อนฝูงสัตว์
ต่อมาก็นิยมนำสุนัขมากัดกันเป็นกีฬา เนื่องจากเป็นสุนัขที่แข็งแรง ล่ำสัน และเมื่อกีฬาดังกล่าวถูกยกเลิกก็มีการคัดเลือกพันธุ์เพื่อเหมาะสำหรับเลี้ยง
จนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในที่สุด เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก(แต่คุณต้องดูนิสัยมันด้วยว่าจะไม่เป็นปัญหาใน
ที่หลัง) นิสัยขั้นพื้นฐานรักเจ้าของและจงรักภักดีมากเข้ากันได้ดีกับคนและสัตว์ เลี้ยงในบ้าน
การออกกำลังกายก็แล้วแต่สายพันธุ์แต่สุนัขพันธุ์นี้เป็นโรคอ้วนได้ง่ายจง ระวัง
อีกทั้งการออกกำลังกายในอากาศร้อนจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ส่วนเรื่องการรักษาความสะอาดระวังโรคที่มากับริ้วรอยบนใบหน้าของสุนัขพันธุ์
นี้(ราคาขายในไทย 5000 – 10,000 บาท)
5. Glen of Imaal
Terrier
สุนัขเทอร์เรีย
อดีตเป็นสุนัขใช้แรงงานจำพวกล่าสัตว์จิ้งจอกหรือแบดเจอร์ในไอร์แลนด์ เหมาะสำหรับเลี้ยงพาร์ทเมนต์เพราะว่ายาวแค่
14 นิ้ว แต่นิสัยนั้นจำเป็นต้องฝึกพอสมควรแม้ว่าจะเป็นสุนัขที่มีวินัยเข้ากันได้ดี
กับคนและเด็กๆ แต่ปัญหาคือมันไม่เข้ากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ(เนื่องเพราะอดีตมันเป็นสัตว์
ล่าเนื้อ) การออกกำลังกายก็จำเป็นแม้มันขาสั้นเมื่อเทียบกับร่างกายพวกเขาแต่กระนั้น
มันก็ชอบกระโดดหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ดังนั้นจำเป็นต้องมีพื้นที่ และการดูแลรักความสะอาดพอสมควรโดยเฉพาะช่วง
3-4 เดือน
สุนัขพันธุ์ปั๊ก
ถิ่นกำเนิดในประเทศจีนเป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีกำเนิดตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลในสมัยโบราณนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน และต่อมาก็กลายเป็นของขวัญพระราชทานหรือใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างจีน
ทิเบต ญี่ปุ่น ก่อนที่จะกระจายไปอยู่ส่วนต่างๆของยุโรป เนื่องจากตัวเล็กดังนั้นพื้นที่เลี้ยงดูไม่จำเป็นต้องกว่าง(มันเหมาะสำหรับ
เลี้ยงพาร์ทเมนท์มากๆ) นิสัยน่ารักและชอบเด็ก(แต่ไม่กินตับเด็ก) แต่ข้อเสียคือนิสัยดื้อรั้นและชอบนอนบนโซฟา หายใจและกรนเสียงดัง การดูแลรักษาความสะอาดค่อนข้สงมากเพราะว่าโดยเฉพาะริ้วรอยและดวงตามักหลั่ง
น้ำตาเป็นที่สะสมเชื้อโรคต้องทำความสะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ การออกกำลังกาย
จนแทบไม่ต้องออกกำลังกายสุนัขชนิดนี้เลย ข้อควรระวังในการเลี้ยงคือสภาพอากาศที่ร้อนปั๊กจะทนไม่ค่อยจะได้
ถ้าทนไม่ไหวอาจเป็นลมแดดได้ และถ้าอากาศเย็นควรให้อยู่ในที่อุ่นๆ หรือหาเสื้อมาสวมให้เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด
(ราคาขายในไทย 5500 – 8000 บาท)
7. Bullmastiff
บูลแมสติฟฟ์ เป็นสุนัขสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษที่มีขนาดปานกลาง
สมัยก่อนถูกใช้เป็นสุนัขอารักขา รักษาความปลอดภัยในช่วงปี 1800 สามารถโจมตีผู้บุกรุกได้อย่างดุดัน
หากแต่ขนาดของมันของค่อนข้างใหญ่พอสมควร(สูง21-27นิ้ว หนัก 100-130
ปอนด์) ทำให้คุณจะต้องมีที่ว่างเพียงพอให้สุนัขพันธุ์นี้ได้วิ่งเล่นหรือเดินไป
มารอบบ้าน หากแต่ในพาร์ทเมนต์ก็สามารถเลี้ยงได้เช่นกัน ฝึกง่ายเพราะสุนัขตัวนี้มีพื้นฐานรักเจ้าของและครอบครัวอยู่แล้ว
อีกทั้งมันรักสงบ(??)และมีความอดทนต่อเด็ก ซึ่งนิสัยแท้จริงของมันก็คือมันกระหายที่อยากสนใจมนุษย์และรักใคร่ความสงบ
ส่วนการออกกำลังกายต่ำหรือปานกลางเนื่องจากปกติมันเป็นสุนัขที่ขี้เกียจชอบ นอนบนโซฟา
ดังนั้นหากปล่อยปะละเลยมันจะเป็นโรคอ้วน ทำให้ต้องพามันไปเดินเล่นครั้งคราวก็ดี และสุดท้ายมันเป็นสุนัขที่ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาให้สวยงามเพราะขนสั้น
(ราคาขายในไทย 8,000 – 15,000 บาท)
8. Greyhound
เกรย์ฮาวนด์
เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอียิปต์ สมัยโบราณนิยมใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์เนื่องจากช
รูปร่างเพียวลม แต่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ทำให้สุนัขพันธุ์นี้สามารถวิ่งได้เร็วที่สุดในบรรดาสุนัขด้วยกัน
และถูกนำมาใช้ในกีฬาการแข่งขันวิ่งแข่งสุนัข และเป็นอันดับที่เหลือเชื่อว่ามันเหมาะสำหรับเจ้าของที่มีนิสัยขี้เกียจไม่
มีเวลาเลี้ยง โดยข้อมูลบอกว่า พื้นที่เลี้ยงต่ำโดยให้เหตุผลว่ามันสามารถเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ขนาด
เล็ก(สุนัขตัวนี้โตเต็มที่ 2- ½ ฟุต หนัก 60-70 ปอนด์)อีกทั้งมันยังมีสายพันธุ์ขนาดเล็กเหมาะกับพาร์ทเมนต์ ฝึกง่ายเพราะมีนิสัยเรียบร้อย สุภาพ ใจดี จงรักภักดีต่อเจ้าของ เชื่อฟัง แต่กระนั้นควรหลีกห่างจากสัตว์ขนาดเล็กหรือเด็กเล็กเอาไว้(บางเว็บบอกว่ามัน
สามารถเล่นกับเด็กได้) ส่วนการออกกำลังกลายบอกว่าต่ำหรือปานกลาง โดยบอกว่าวิ่งแค่ 20-30
นาทีก็พอ สุดท้ายการบำรุงรักษาต่ำเพราะว่าขนสั้นและเหมาะสำหรับคนแพ้ขนสุนัข(ราคาขาย
ในไทย 5000 – 10000 บาท)
9. Japanese Chin
สุนัขพันธุ์
เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขชนิดหนึ่งที่เชื่อว่ามีต้นกำเนิดในประเทศจีนมีหลายร้อยปีก่อน
ตอนแรกอาศัยในวัดของจีนต่อมาจักรพรรดิของจีนก็ชอบ และมอบสุนัขเป็นของขวัญแก่จักรพรรดิของญี่ปุ่นและได้กลายเป็นที่นิยมในที่
สุด ก่อนที่จะแพร่ที่ยุโรปในปี 1800 ในเวลาต่อมา เป็นสุนัขที่ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เลี้ยงมากเพราะมีขนาดเล็ก
ฝึกง่ายเพราะนิสัยเงียบสงบ มีมารยาท ชินได้ดีเกือบทุกคนรวมทั้งสัตว์แปลกหน้าและพวกเด็ก
ไม่จำเป็นต้องพาไปเดินเล่นมาก สามารถปรับตัวกับสภาพอากาศต่างๆ ได้ดี แต่การดูแลปานกลางเพราะต้องแปลงขน
และต้องดูแลรักษาโรคภัยโดยเฉพาะช่วงอายุสุนัขมีอายุ 4 เดือนแรกไม่ว่าปัญหาหัวใจ
ต้อกระจก
10. Bolognese
สุนัขพันธุ์โบโลเนสเป็นสุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์บิชอน
ฟริซ(หน้าเหมือนกัน) ในภาคใต้ของอิตาลี เชื่อว่ามีต้นกำเนิดราวยุค 1400 เดิมทีมันถูกเลี้ยงไว้สำหรับไล่หนู แต่ภายหลังราวยุคเรนเนซองส์มันถูกใช้เป็นของกำนัลสำหรับพระผู้ใหญ่และภาย
หลังมันถูกเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน และกลายเป็นที่นิยมในหมู่ราชสำนักและขุนนางของสเปนและยุโรปในปี
1800 เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เหมาะสำหรับเลี้ยงในพื้นที่ขนาดเล็ก
เช่น พาร์ทเม้นท์ หนักเพียง 8-14ปอนด์ขนาดทารกแรกเกิด
ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายมาก แต่มันมีนิสัยขี้เล่นดังนั้นออกเดินเล่นบางครั้งบางคราวก็ได้
ส่วนการฝึกอบรมมารยาทขั้นพื้นฐานก็ง่าย แต่ต้องระวังอย่าให้อยู่กับคนแปลกหน้า
เด็กและสัตว์อื่นๆ และสุดท้ายการเตรียมที่จะเลี้ยงก็พอสมควรเพราะว่ามันมีขนยาว หลุดติดพรมได้ง่าย
และระวังจะเกิดโรคภูมิแพ้ให้ดีหากเลี้ยงมัน
ที่มา :
เนื้อหาจากบทความ Top 10 Dogs
for Lazy Owners
No comments:
Post a Comment